Inside Dara
กราบขออภัย “พี่คริต” “ตาล ลีโอเกิร์ล” สำนึกผิด อาจคิดไปเองฝ่ายเดียว ยันไม่มีเจตนาร้าย

“ตาล ลีโอเกิร์ล” เผยแล้ว พระเอก K คือ “ชาคริต” ยกมือกราบขออภัยไม่มีเจตนาร้าย แค่ค้างคาใจเพราะอยู่ดีๆ ก็หายใป เสียใจเล่าดีเทลเยอะเกินไปจนกระทบอีกฝ่าย อวยเป็นผู้ชายนิสัยดี คุยด้วยแล้วรู้สึกดีจนแอบคิดเป็นคนพิเศษ ยันไม่ได้มโน ตีมึนไม่รู้ที่มาแชตไลน์หลุด อ้างโทรศัพท์เสียตอนสงกรานต์ เชื่อไม่โดนเท แค่คุยแล้วไม่ใช่

เป็นประเด็นฮือฮาไม่เบาเลยทีเดียว หลังจากที่ “ตาล ลีโอเกิร์ล” สรัญญา มีธรรม ออกมาแฉว่าโดนพระเอก K เทหลังเป็นข่าวด้วย มีไลน์หลุดมาตอกย้ำความสัมพันธ์ ถึงขนาดพระเอกดัง “ชาคริต แย้มนาม” แคนเซิลงานกะทันหันเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา อ้างมารดาป่วย ซึ่งเรื่องดังกล่าวทำให้สาวตาลรู้สึกผิด ถึงขนาดยกมือขอโทษอีกฝ่าย ยันเป็นคนดี

“ถามว่าพระเอก K ใช่พี่คริตมั้ย ก็ใช่ค่ะ ที่โทร.มาเล่าเพราะจริงๆ ก็เป็นแฟนคลับของรายการอยู่ ก็ได้ฟังเรื่องความรักมาหลากหลายรูปแบบตลอด ทางรายการก็ให้คำแนะนำ มุมมองความรักที่ดี พอดีมีเรื่องค้างคาใจอยู่นิดหนึ่งด้วยก็เลยโทร.ไป คิดว่าคงไม่มีใครรู้หรอก อยากรู้มุมมองของเรา ที่เขาเป็นนักแสดงเป็นดาราเขามีความคิดเห็นยังไง ถ้าเป็นแบบเรา”

“เราไม่ได้ค้างคาใจที่เขาไม่เปิดเผยนะ แต่เราไม่รู้ว่าความสัมพันธ์เป็นไปในรูปแบบไหน ความรู้สึกเหมือนพี่น้องคุยกัน ไม่ได้เป็นไปในทิศทางไหน ที่ออกมาพูดเพราะเขาหายไปก็ส่วนหนึ่ง แต่เราก็เข้าใจตรงนี้ ก็เคยมีข่าวมาครั้งหนึ่งคิดว่าเขาคงอาจจะรู้สึกไม่ดี”

ชมเป็นคนน่ารัก ใครคุยด้วยก็ต้องรู้สึกดี แต่ตนก็ไม่กล้าคิดว่าจะได้เป็นแฟนเพราะอีกฝ่ายเป็นพระเอก

“ก็คุยปลายปีที่แล้ว พอเริ่มมีข่าวรอบแรกพี่เขาก็หายไป แต่นานๆ ทักไปทีเขาก็ตอบ เราไม่ได้เกลียดหรือโกรธกัน อาจจะไม่รู้จะคุยอะไรกันแล้วรึเปล่า พี่เขาเป็นคนที่น่ารักและนิสัยดีมากๆ มั่นใจว่าถ้าใครได้คุยกับพี่เขาก็รู้สึกดีเป็นธรรมดา พอได้คุยกันบ่อยๆ ก็เป็นธรรมดาของผู้หญิงที่มันต้องคิดแต่ก็ไม่กล้าคิดไปไกลว่าเราต้องมาเป็นแฟนกันเพราะเขาเป็นพระเอก”

“ตอนที่คุยก็ให้กำลังใจในเรื่องชีวิตพี่เขา คุยกันเรื่องทั่วไป รู้สึกว่าเราชอบคล้ายๆ กัน จริงๆ เราเป็นคนให้กำลังใจพี่เขาไปก่อน เจออะไรคล้ายๆ กันมาเลยทำให้ได้คุยกันยาวมากขึ้น ถามว่ารู้จักกันได้ยังไงกลัวจำคลาดเคลื่อน แต่ไม่ได้มีใครแนะนำ เป็นการรู้จักกันเอง”

ไม่ได้มโน! คุยกันเหมือนคนพิเศษ

“เราคิดบ้างแต่จริงๆ พี่เขาอาจจะไม่คิดอะไรก็ได้นะคะ ตอนแรกก็ให้เวลาพี่เขา ถ้าเป็นเราก็รู้สึกว่าแบบ...มันคืออะไรยังไง (โดนด่าว่ามโน?) เราและพี่เขาก็รู้อยู่แล้วว่ามันคือยังไง”

“คือคนโทร.มารายการนี้เยอะแต่ละคนก็มีปัญหาแตกต่างกัน แล้วเอาไปต่อยอดอีก เราก็ไม่รู้ว่าคนจะเอาเรื่องของเราไปต่อยอดอีก เราผิดตรงที่ว่าพอมันเป็นรายการสด มันไม่รู้จะอธิบายว่ามันคือยังไง การที่จะปรึกษาใครก็ต้องบอกดีเทลบ้าง คนที่เราปรึกษาเขาจะได้จับทางถูก แต่มันอาจจะบอกเยอะเกินไป จริงๆ กับพี่เขานานๆ ทักกันที ก็ตั้งแต่ออกรายการก็ไม่มีทักมานะ (คนใกล้ตัวชาคริตบอกว่าคุยจริงแต่เรื่องจบไปแล้ว?) ก็คงอย่างนั้นค่ะ”

อ้างแชตไลน์หลุดเป็นเพราะโทรศัพท์น้ำเข้าตั้งแต่สงกรานต์ ไม่อยากจะโทษร้านซ่อม

“โทรศัพท์ตาลมีปัญหาน้ำเข้าตั้งแต่สงกรานต์แล้วก็มีหลักฐานคุยกับเพื่อนๆ พี่ๆ เพราะช่วงนั้นคนติดต่อตาลไม่ค่อยได้ ให้ติดต่อผ่านเพื่อนอีกคนหนึ่งตาลก็ไม่รู้ว่าข้อมูลมันไปอยู่ที่ไหน ยังไง ก็ไม่อยากจะโทษร้านที่ทำโทรศัพท์ พอมันเกิดแบบนี้ขึ้นแล้วพูดอะไรไปคนก็คงไม่เชื่อ ถ้าอยากจะดังแล้วออกมาแฉคงทำไปตั้งแต่ตอนแรกๆ แล้ว เราไม่มีเจตนาจะทำร้ายพี่เขาเลย เราบอกกับทุกคนเสมอว่าพี่เขาเป็นคนดีมากคนหนึ่ง ส่วนเพจที่เอาไปลงก็ไม่รู้ว่าเขาไปเอามาจากไหนเหมือนกัน”

รู้สึกผิด ไม่ได้คิดทำร้าย บล็อกไลน์แค่ขอตั้งสติ

“ก็รู้สึกนะ เราไม่ได้อยากจะทำร้ายเขา ยังเคารพและรู้สึกดีกับพี่เขาตลอด เราเองก็พยายามระวังคำพูดตลอดเพราะไม่อยากให้พี่เขารู้สึกไม่ดีกับเรา ตาลไม่ได้ต้องการมาสร้างกระแส เราอยากจะปรึกษากับใครสักคนจริงๆ แต่ไม่คิดว่าจะมีคนให้ความสนใจขนาดนี้ เรื่องที่จะกลับไปคุยกัน เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วก็คงไม่หวัง แต่อยากบอกว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้ายหรือทำให้พี่เขาดูไม่ดี คิดว่าพี่เขาจะเข้าใจตาลเพราะเขาไม่คิดร้ายกับใคร ก่อนหน้านี้ก็บล็อกพี่เขาไว้ กลัวพี่เขาติดต่อมาแต่คืนนี้จะไปปลดแล้ว ขอไปตั้งสติก่อน ก็ไม่รู้ว่าพี่เขาจะตอบกลับมาหรือบล็อกเราเหมือนกันรึเปล่าก็ไม่รู้”

กราบขออภัยพี่คริตที่ทำให้วุ่นวาย ไม่มีเจตนาร้าย

“(ยกมือไหว้) ก็ต้องขอโทษพี่ด้วยที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวาย รู้สึกกังวลและเป็นห่วงพี่เขาเหมือนกัน จริงๆ ความสัมพันธ์ของเรามันอาจจะไม่มีอะไรมาตั้งแต่แรกก็ได้ เราไม่ได้คิดอะไรไม่ดี เลยไม่ได้รู้สึกว่าเราไปทำร้ายเขา แต่พอมาเป็นอย่างนี้ เราเองก็มั่นใจว่าสิ่งที่เราพูดไม่ได้เป็นการพูดไม่ดี”

“เราไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองโดนเทนะ ก็เหมือนคนทั่วไปที่คุยกันแล้วแล้วอาจจะรู้สึกว่ามันไม่ใช่ก็หายๆ กันไป นานๆ ทีก็คุยกันได้ ตาลไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองโดนเท ลูกค้าก็เข้ามาถามเยอะเหมือนกันพอเราบอกไม่มีอะไร ลูกค้าก็สั่งของเหมือนเดิม”