Inside Dara
"มิ้นต์"ดัน"เจมส์ มาร์" ส่ง"เพียงขวัญ-รณพีร์"ฟิน

เป็นคู่สุดท้ายในละครซีรีส์ฟอร์มยักษ์เรื่อง "สุภาพบุรุษจุฑาเทพ" ตอน "คุณชาย รณพีร์" ทางช่อง 3 สำหรับพระเอกใหม่ถอดด้าม "เจมส์ มาร์" ที่ประกบนางเอกสาว "มิ้นต์" ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง วันนี้จังหวะดีที่ทั้งคู่ว่างจากงาน เลยเจียดเวลามาพูดคุย

ในฐานะเป็นนักแสดงหน้าใหม่ เจมส์ช่วยแนะนำตัวให้แฟนๆ รู้จักหน่อย?

เจมส์ - "ผมเป็นลูกครึ่งไทย-ฮ่องกงครับ พ่อเป็นคนไทย แม่เป็นคนฮ่องกง ครอบครัวทำธุรกิจส่งออก ผมเกิด (3 ก.ค. พ.ศ.2536) ที่เมืองไทยแต่ไปโตที่ฮ่องกง ผมมีน้องสาว 1 คน ชื่อ วาเนสซ่า มาร์ พ่อบินไปมาระหว่างไทย-ฮ่องกง ทุกวันนี้แม่ก็บินจากฮ่องกงมาหาผมทุกเดือน โดยผมมาอยู่ที่บ้านอากงอาม่าที่นี่ครับ"

เข้าวงการมาได้อย่างไร?

เจมส์ - "ตอนนั้นอายุ 16 ปี พี่เอ-ศุภชัย (ศรีวิจิตร) ไปเที่ยวฮ่องกงเจอก็ชวนให้มาทำงานที่เมืองไทย พอกลับมาเมืองไทยเขาก็พาไปประกวดเดอะสตาร์ 7 เพื่อหาประสบการณ์ ถามว่าชอบร้องเพลงไหม ชอบฟังเพลงมากกว่า แต่เรื่องร้องเพลงไม่ค่อยมั่นใจ หลังจากนั้นก็เรียนแอ๊กติ้ง เข้าคอร์สที่บ้านพี่เอ แล้วก็ได้เล่นละครกับช่อง 3 ถึงตอนนี้จะ 2 ปีเต็มแล้วกับการที่ผมได้ทำงานกับช่อง 3 ซึ่งผมรู้สึกว่าการทำงานอาชีพนี้ต้องอดทน"

พอทราบว่าจะได้เล่นละครโปรเจ็กต์ "สุภาพบุรุษจุฑาเทพ" นี้รู้สึกยังไงกันบ้าง?

เจมส์ - "ดีใจมากๆ ตื่นเต้นที่จะได้ร่วมงานกับนักแสดงหลายๆ ท่าน ซึ่งพอทำงานจริง ทุกอย่างต้องเรียนรู้ใหม่หมดเลย"

มิ้นต์ - "มิ้นต์ก็ดีใจค่ะส่วนตัวชอบทำงานที่เป็นซีรีส์เพราะจะได้เห็นความสามัคคีของทุกคน ทั้ง 5 เรื่อง มันจะทำให้ความรักของเราเหนียวแน่นมากขึ้น อย่างมิ้นต์ก็เคยเล่นเรื่อง 4 หัวใจแห่งขุนเขา ชอบมาก ทุกวันนี้แก๊ง 4 หัวใจฯ ก็ยังเหนียวแน่นอยู่ เลยติดใจละครแนวนี้"

เจมส์อยู่ฮ่องกงนาน เรื่องภาษามีปัญหาไหม?

เจมส์ - "มีครับ บางคำผมอ่านผิด พูดไม่ชัด ไม่เข้าใจความหมาย ตอนอยู่ฮ่องกงก็มีพูดภาษาไทยครับ แต่ไม่ชัด สำเนียงไม่ถูกต้อง ไม่เข้าใจศัพท์บางคำ คือที่บ้านใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก ภาษาจีนพูดบ้าง แต่จะพูดเวลาที่คุยกับผู้ใหญ่ที่ฮ่องกงมากกว่า ผมก็พยายามถาม ผู้กำกับฯ พยายามฝึกอ่านออกเสียงเยอะๆ"

ในฐานะที่มิ้นต์ผ่านงานแสดงมาก่อน พอมาเรื่องนี้เหมือนเป็นเจ๊ดันให้เจมส์?

มิ้นต์ - "ไม่ได้เป็นเจ๊ดันหรอกค่ะ เจมส์เป็นคนเก่งมาก นับถือเลยว่าเป็นเรื่องแรกของเขาแต่เขาทำได้ดี ช่วงแรกๆ อาจจะกดดันเพราะโดนจับตามอง แต่พอมิ้นต์เห็นเขา เราเชื่อว่าหลายๆ คนต้องหลงรักเขาในเรื่องนี้ เพราะตัวพี่นก-ฉัตรชัย (ผู้กำกับฯ) ยังชมว่าเจมส์เก่ง เราก็มีสอนเขาบ้างในเรื่องมุมกล้อง แต่พัฒนาการเขาไปได้เร็วมาก"

เจมส์ - "ผมว่ามิ้นต์เป็นเจ๊ช่วยเหลือมากกว่า ผมพูดถูกไหมครับ (ยิ้มเขิน) เขาคอยช่วยเหลือ ให้โอกาส เวลาเขาเล่นก็เล่นมาเต็มที่ เวลาที่ดูมิ้นต์เล่น เราก็เก็บความรู้จากมิ้นต์เยอะมาก แล้วเขาใจเย็นมาก ไม่ว่าผมจะพูดผิดต้องเทก กี่ครั้ง เขาก็ไม่ว่าอะไรต้องขอบคุณมิ้นต์ที่ไม่เคยมาหงุดหงิดกับผม (หัวเราะ)"

ร่วมงานกันแล้วเป็นอย่างไรบ้าง?

เจมส์ - "สนุกมากๆ มิ้นต์น่ารักและไนซ์มาก เราอายุเท่ากัน เวลาคุยจะรู้สึกเหมือนเพื่อนกัน ทำให้ทำงานร่วมกันง่ายขึ้น ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มิ้นต์ชอบแกล้งผม ชอบแซวชอบแหย่ให้หงุดหงิด เขาชอบมาเรียกพี่เจมส์ทั้งที่อายุเท่ากัน แหย่ให้คุ้นเคย แต่ผมไม่กล้าแหย่เขาเพราะผมเป็นผู้ชาย ประเด็นหลักคือเดี๋ยวเขาจะมาแกล้งเราหนักกว่าเดิม"

"เท่าที่ร่วมงานกัน เขาเล่นดีมากเลย ดูแล้วรู้สึกเลยว่าเขาเป็นเพียงขวัญ เป็นคนเก่ง เขาไปเรียนรำ จนเขารำได้ เป็นคนที่เต็มที่กับงานมากและอดทน ทำงานร่วมกันก็สบาย มีความสุข"

มิ้นต์ - "ก็โอเคนะคะ แต่ช่วงแรกยังปรับตัวไม่ได้เพราะเจมส์เป็นคนเงียบและตั้งใจอะไรสุดโต่ง ต่างจากเรา จะขี้เล่น เพื่อให้บรรยากาศการทำงานคลายเครียด รู้ว่าเขาเป็นคนแบบนี้ก็จะได้เข้าหาถูก เพราะถ้าไม่เขินไม่เกร็งก็จะทำงานกันง่ายขึ้น พยายามทำให้เขาผ่อนคลายค่ะ"

เรื่องนี้มิ้นต์ต้องไปเรียนรำด้วย?

มิ้นต์ - "ใช่ค่ะ เรื่องนี้ต้องรําฉุยฉายพราหมณ์ ยากมาก เพราะไม่เคยทำ ไปเรียนที่วิทยาลัยนาฏศิลป์ ศาลายา พี่นก-ฉัตรชัย คอยส่งรถตู้ไปรับ-ส่งที่บ้าน ใช้เวลาเรียนวันละ 5 ชั่วโมง ใช้เวลาเรียน 5 วัน คุณต้องรำให้ได้ ครูต้อพ่อของพี่ฟลุค (เดอะสตาร์ 5) เขามาสอน ถ้ามือไม่ได้ตีเลย (หัวเราะ) เขาก็ให้เรายืนอยู่แบบนั้น 5 ชั่วโมงจนกว่าจะได้ ช่วงนั้นเครียดจนร้องไห้เลย ยอมรับว่าท้อกับการรำเพราะยากจริงๆ ส่วนที่ยากอีกอย่างคือการขึ้นสะลิงเพราะเป็นคนกลัวที่สูง"

คนจับให้เป็นคู่จิ้นกันรู้สึก ยังไง?

มิ้นต์ - "ส่วนตัวไม่ค่อยอินกับคำนี้เท่าไหร่ เพราะองค์ประกอบของละครไม่ได้อยู่ที่คนสองคน อยากให้มองโดยรวม เรื่องนี้พี่นก-ฉัตรชัย ทุ่มเทเยอะมาก ไม่อยากให้คนดูมองแค่พระนางเท่านั้น"

เจมส์ - "ดีใจครับถ้าคนอยากให้เป็นคู่จิ้น นั่นแสดงว่า รณพีร์ และเพียงขวัญ แสดงออกมาได้น่ารัก และแสดงว่าผมกับมิ้นต์แสดงออกมาได้ดีด้วย ทำให้เป็นกำลังใจให้ผมกับมิ้นต์ทำงาน ต่อไป ดีใจมากที่คนชอบตัวละครที่เราทั้งคู่เล่นครับ"

ผ่านมาแล้ว 4 ตอน มาถึงเราที่เป็นตอนสุดท้ายกดดันไหม?

มิ้นต์ - "กดดันนะ แต่เนื้อหาของแต่ละเรื่องแตกต่างกันไป ตอนเราจะเป็นแนวดราม่า มีเรื่องความรัก ความกดขี่ข่มเหง คนจะมองว่าอาชีพดาราเป็นอาชีพเต้นกินรำกิน แต่จริงๆ เราเป็นคนที่ทะนงในศักดิ์ศรี เนื้อหาจะดราม่า แนวรันทดมาก"

เจมส์ - "ส่วนผมไม่รู้สึกกดดันแต่รู้สึกตื่นเต้นที่ละครได้ออกมา ให้ชมกัน ผมรู้สึกว่าทั้ง 5 เรื่องไม่เหมือนกัน เราไปถ่ายมาทั้ง 5 เรื่อง วิธีการนำเสนอต่างกัน ที่สำคัญทุกเรื่องมีเสน่ห์ไม่เหมือนกัน"

กลัวเรื่องการเปรียบเทียบหรือเปล่า?

เจมส์ - "ไม่กลัวครับ แต่ละคนไม่เหมือนกัน เขาก็มีดีของเขา ผมก็เป็นของผม อย่างตอนที่ 1-4 ประสบความสำเร็จมาก ผมก็ดีใจ เพราะรู้สึกว่ามันก็เป็นเรื่องของเรา เราไปทำงานกับพวกเขามาเต็มที่ทุกเรื่อง ผมมั่นใจว่าคนดูจะต้องชอบ ด้วยความที่เป็นละครฟอร์มใหญ่ ผมรู้สึกว่าคนดูที่ดูเขารักนามสกุลจุฑาเทพ รักตัวละครในเรื่องนี้ทั้งหมด"

เจมส์ตอนนี้เป็นที่รู้จักมากขึ้น มีแฟนคลับตามตึม วางตัวยากขึ้นไหม?

เจมส์ - "ไม่ยากครับ ผมว่าสิ่งที่เปลี่ยนหลังจากที่ผมเป็นนักแสดงคือความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้น แต่เรื่องการวางตัวผมก็เป็นเจมส์ มาร์ อาจจะเป็นเรื่องการแต่งตัวที่ดีขึ้นหน่อย เพราะต้องเป็นแบบอย่างของหลายๆ คน มาทำงานตรงนี้ผมไม่ได้รู้สึกว่าเวลาส่วนตัวหายไป ผมยังไปเดินเล่นกินข้าวยังไปตีกอล์ฟปกติครับ"

เห็นว่ามิ้นต์กำลังปลูกบ้าน 20 ล้านบาทให้ครอบครัว?

มิ้นต์ - "ไม่ถึงค่ะ ค่าที่อาจจะแพง เพราะอยู่ย่านใจกลางเมืองแถวเซ็นทรัลพระราม 9 บ้านหลังนี้ก็ไม่ได้ซื้อคนเดียว มีคุณพ่อคุณแม่ช่วย ส่วนตัวคิดว่าบ้านเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนอยู่จะต้องอบอุ่นและมีความสุข น้องๆ เริ่มโตอยากมีห้องเป็นของตัวเอง ตอนนี้อยู่ระหว่างการสร้างน่าจะเสร็จปีหน้า ถือเป็นของขวัญชิ้นใหญ่ ภูมิใจมากๆ ที่จะได้มีบ้านที่มาจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเองค่ะ"

หลายคนมองว่ามิ้นต์เป็นผู้นำครอบครัว?

มิ้นต์ - "เรียกว่าเป็นพี่สาวคนโตดีกว่า เพราะหัวหน้าครอบครัวจริงๆ คือคุณพ่อ เราเป็นคนคอยแบ่งเบาภาระท่าน เพราะเราเป็นพี่คนโตอยากทำหน้าที่ดูแลน้องๆ ให้ได้มากที่สุด เมื่อใดที่หาเงินได้ก็จะบอกพ่อแม่ว่าน้องคนนี้เดี๋ยวมิ้นต์ส่งเรียนเอง เพราะอยากให้เขาไปเรียนต่างประเทศ บอกตรงๆ เราไม่มีโอกาส ซึ่งเราอยากไปมาก ก็ให้น้องไปแทน"

น้องๆ มองว่าเราเหมือนแม่คนที่สองไหม?

มิ้นต์ - "มองค่ะ (หัวเราะ) เขาบอกหนูดุ กว่าแม่อีก น้องๆ กลัวหนูมาก เวลาน้องอยู่ที่บ้าน เราก็จะทำการ์ดคำศัพท์ให้เขาท่อง ดึกแค่ไหนกลับมาคุณต้องท่องกับเรา ถ้าท่องไม่ได้โดนตี อย่างน้องที่ไปเรียนที่อินเดีย กลับมาอยู่ไทย 1 เดือน ก็จะไม่ให้เขาว่าง ส่งไปเรียนพิเศษภาษาอังกฤษ หนูอยากให้น้องได้สิ่งที่ดีที่สุด"

มาถึงเรื่องหัวใจบ้าง ตอนนี้เป็นยังไง?

มิ้นต์ - "เรื่อยๆ ค่ะ ช่วงนี้ทำงานหนักจนไม่มีเวลาคิดอะไรเลย ถามว่ามีคนเข้ามาจีบไหม ก็มี แต่เรายังไม่พร้อมจะเปิดรับใครเข้ามาเต็มร้อย ให้ได้แค่ความเป็นเพื่อนไปก่อน"

แล้วกับ "ภูผา เตชะณรงค์" ล่ะ?

มิ้นต์ - "คนเราต้องมีศึกษากัน แต่ก็ยังไม่ได้เปิดรับพี่ผาเต็มร้อย ยังเป็นเพื่อนกันไปก่อน อาจมีไปไหนมาไหนด้วยกันเป็นเรื่องปกติ เพราะเราไปกันเป็นกลุ่มเพื่อน คุณพ่อหนูเป็นคนจีนหัวโบราณจะซีเรียส ข่าวที่ออกมาบางทีคุณพ่อไม่เข้าใจ ก็ต้องให้แม่ซึ่งมาทำงานกับเราอธิบาย พี่ผาเข้ามาในมุมของเพื่อน แต่ถ้าวันนึงเราจะเปิดหรือตกลงคบกันก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายเพราะเราทำอะไรอยู่ในสายตาผู้ใหญ่"

คำว่า "สะใภ้เล็ก เตชะณรงค์" รู้สึก ยังไง?

มิ้นต์ - "คำนี้ดูโตไปไกลไป วันนี้ยังเป็นเพื่อนกัน วันหน้าอาจจะใช่หรือไม่ใช่ไม่รู้ ยังไม่ถึงเวลา และเราเองไม่ได้ปิดกั้น ถ้าวันนึงเขาจะไปเจอใคร ตอนนี้เรียกว่าโสดค่ะ หนูอายุเพิ่ง 20 ไม่รีบร้อน ส่วนสเป๊กหนูดูนิสัยว่าเข้ากันได้ไหม รู้จักฟังกันและกัน"

"นิยามความรักของ มิ้นต์คือต้องรู้จักรัก ก่อนจะรักคนอื่นได้ต้องรักตัวเองให้เป็นก่อนถึงจะสามารถแบ่งปันความรักให้คนอื่น ความรักมีทั้งด้านดีและเสีย ถ้าเรารักให้เป็นและรู้จักรักมันก็เป็นสิ่งที่ดีกับตัวเราค่ะ"

แล้วเจมส์ล่ะ ตอนนี้มีศึกษาดูใจใครไหม?

เจมส์ - "ตอนนี้ไม่มีครับ ไม่ใช่ว่าปิด ผมว่าเรื่องความรักมันเป็นธรรมชาติ ถึงเราปิดถ้าความรักมาตอนนั้นเราก็ต้องเปิด แต่ก่อนตอนเด็กๆ มีปั๊ปปี้เลิฟปกติ ตอนผมอยู่เมืองไทยอายุ 15-16 เคยมีแฟนนะ เลิกกันเพราะเขาไปเรียนต่อเมืองนอก ตอนนั้นเราเด็ก ไม่ค่อยรู้เรื่องความรัก ความรับผิดชอบก็ยังไม่ค่อยมี การที่เรามีแฟนจะอยู่กันแค่คนเดียวในโลกไม่ได้ ต้องดูแลเอาใจใส่เขาด้วย ช่วงที่เขาไปเรียนต่อตอนนั้นเฮิร์ตเป็นปี"

สเป๊ก เจมส์ มาร์ เป็นอย่างไร?

เจมส์ - "เจมส์ มาร์ ไม่มีสเป๊กครับ รักใครชอบใครอยู่ที่ความรู้สึกข้างใน ผมชอบผู้หญิงเก่งทางไหนก็ได้ เพราะความเก่งเป็นเสน่ห์ ผู้หญิง นอกเหนือจากรูปร่างหน้าตา"

มีใครบอกไหมว่าตอนนี้กำลังรุ่ง อย่าเพิ่งมีแฟน?

เจมส์ - "ไม่มีเลยครับ การที่มีแฟนไม่ได้หมายความว่าเราจะทำงานให้เขาไม่ได้เต็มที่ แต่ตอนนี้ผมแค่ยังไม่มีเท่านั้นเอง"

อยากฝากอะไรถึงแฟนๆ?

เจมส์ - "ผมจะพยายามพัฒนาฝีมือการแสดงให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ อยากให้คนดูมีความสุขกับงานทุกๆ ชิ้นที่ผมทำ ผมอยากอยู่ได้ด้วยคุณภาพของการแสดงครับ"

มิ้นต์ - "ต้องขอบคุณทุกคนที่คอยเป็นกำลังใจให้ ทุกครั้งที่ไปงานจะมีแฟนคลับ ไปกันเป็นกลุ่มๆ เราก็จะมีความสุข อย่างน้อยเราก็ยังมีคนที่คอยติดตามเราอยู่เหมือน เป็นกำลังใจทำให้เราอยากทำทุกอย่างให้ดีที่สุดค่ะ"