Inside Dara
เจน-นุ่น-โบว์ เล่าชีวิตนักร้องยุคโควิด ทำอย่างไรให้อยู่รอด

“เจนค่ะ เจนค่ะ หนูชื่อเจน มากับนุ่นและก็มากับโบว์ นุ่นค่ะ นุ่นค่ะ หนูชื่อนุ่น มากับเจนและก็มากับโบว์ โบว์ค่ะ โบว์ค่ะ หนูชื่อโบว์ มากับนุ่นและก็มากับเจน” ท่อนเพลงสุดฮิตจากเพลง “ซุปเปอร์วาเลนไทน์” ของ 3 ลูกทุ่งสาว เจน เจนจิรา เหรียญทองคำ, นุ่น นัทธมน นิลคูหา, โบว์ กัลยาณัฎศนา แก่นแก้ว จากวง SUPER วาเลนไทน์ ค่ายท็อปไลน์มิวสิค เพลงที่โด่งดังชั่วข้ามคืนในยุคโควิด-19 ระบาดหนักรอบแรก ทั้งที่เป็นเพลงที่มีมานานเกือบ 10 ปีแล้ว

แต่เหมือนโชคชะตาเล่นตลก เพราะถึงแม้จะกลายเป็นเพลงดัง แต่ 3 นักร้องสาวก็ไม่สามารถไปเล่นคอนเสิร์ตในช่วงนั้น แม้หลังคลายล็อกดาวน์ก็มีงานคอนเสิร์ตเข้ามาเรื่อยๆ แต่แล้วก็เจออุปสรรคเมื่อโควิด-19 ระบาดระลอกใหม่ ทำให้งานคอนเสิร์ตต่างๆ ต้องถูกยกเลิกทั้งหมดอีกครั้ง ส่วนชีวิตคนเบื้องหลังคอนเสิร์ตได้รับผลกระทบหนักมากเช่นกัน

แต่เหมือนโชคชะตาเล่นตลก เพราะถึงแม้จะกลายเป็นเพลงดัง แต่ 3 นักร้องสาวก็ไม่สามารถไปเล่นคอนเสิร์ตในช่วงนั้น แม้หลังคลายล็อกดาวน์ก็มีงานคอนเสิร์ตเข้ามาเรื่อยๆ แต่แล้วก็เจออุปสรรคเมื่อโควิด-19 ระบาดระลอกใหม่ ทำให้งานคอนเสิร์ตต่างๆ ต้องถูกยกเลิกทั้งหมดอีกครั้ง ส่วนชีวิตคนเบื้องหลังคอนเสิร์ตได้รับผลกระทบหนักมากเช่นกัน

เมื่อโควิดระบาด

เราถามถึงชีวิตการเป็นนักร้องลูกทุ่งก่อนหน้าที่โควิด-19 ระบาด ว่าเป็นยังไงบ้าง 3 ลูกทุ่งดังเผยว่า ปกติวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ จะเป็นช่วงเวลาที่เดินสายเล่นคอนเสิร์ตตามงานต่างๆ มีทั้งแยกกันและรวมตัวกัน โดยแต่ละเดือนจะมีงานประมาณ 15-20 งาน

เริ่มที่โบว์เล่าว่า “ก่อนโควิดพวกเราก็มีคอนเสิร์ตกันปกติอยู่แล้ว วันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์จะมีคอนเสิร์ตตลอด วันหนึ่งจะวิ่งกันอยู่แค่งานเดียว แต่ถ้าเดือนหนึ่งก็จะตกอยู่ที่ 15-20 งาน ปกติเราก็มีงานวงด้วย แต่งานก็จะอยู่ใกล้ๆ กันแบบนี้ 15-20 งานต่อคน ถือว่าเป็นที่พอใจค่ะ อยู่ได้” เจนเสริม “ส่วนใหญ่จะเป็นงานกลุ่มค่ะ ไปด้วยกัน 3 คน ของเจนจะไม่ถึง 15-20 งาน เพราะของโบว์จะเป็นงานเดี่ยวด้วย”

แต่แล้วในช่วงเดือน มี.ค. 2563 เมื่อไวรัสโควิด-19 ระบาดหนักในเมืองไทย ทำให้งานบันเทิงต่างๆ โดยเฉพาะคอนเสิร์ตถูกยกเลิกทั้งหมด ส่งผลกระทบต่อคนในวงการบันเทิงทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังอย่างมาก เจน-นุ่น-โบว์ ก็ได้รับผลกระทบไม่ต่างจากศิลปินคนอื่นเช่นกัน

คอนเสิร์ตออนไลน์ ทางออกศิลปินยุคโควิด

ในช่วงที่การแพร่ระบาดของโควิดยังไม่จบง่ายๆ การแสดงคอนเสิร์ตตามสถานที่ต่างๆ จึงเสี่ยงต่อการติดเชื้ออย่างมาก ดังนั้น “คอนเสิร์ตออนไลน์” จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดของวงการเพลงในช่วงนี้ และ 3 สาวก็ได้มีโอกาสไปร่วมเล่นคอนเสิร์ตยุคโควิดเช่นกัน

ซึ่งเจนเล่าถึงการทำงานในรูปแบบใหม่ให้ฟังว่า “เป็นครั้งแรกที่พวกเราซุปเปอร์วาเลนไทน์เปิดคอนเสิร์ตออนไลน์ ก็รู้สึกสนุกอีกแบบหนึ่ง เราได้ขึ้นคอนเสิร์ตแบบปิด ได้ทักทายคุณผู้ชมผ่านหน้าสตรีมไลฟ์สด เป็นความแปลกใหม่อีกหนึ่งรูปแบบ ถามว่าตื่นเต้นมั้ย ตื่นเต้นในเรื่องของการทำโชว์ ซึ่งพวกเราไม่เคยทำ ปกติพวกเราร้องเพลงก็จะมีแดนเซอร์ประกอบอยู่บนเวทีอยู่แล้ว แต่ ณ วันที่เราไปเล่นสตรีมไลฟ์สด เราก็เพิ่มความพิเศษมากขึ้นคือ มีการจัดโชว์คล้ายๆ ละครเวทีด้วย เป็นการเพิ่มอรรถรสให้คนดู”

นุ่นเสริมว่า ผลตอบรับดี สำหรับตนแล้วอะไรที่ทำแล้วได้เงินก็ทำหมด “ผลตอบรับก็ดีค่ะ อ่านคอมเมนต์แฟนคลับเขาก็ชมกันค่ะ ก็ชมว่าดี ไม่เคยเห็น ก็อยากให้จัดบ่อยๆ ถามว่าชอบมั้ย สำหรับนุ่นเอง นุ่นทำได้หมด ถ้าทำแล้วได้ตังค์ นุ่นได้หมดค่ะ” ส่วนโบว์บอกว่า “สนุกดีค่ะ จริงๆ คอนเสิร์ตที่เป็นผ่านกล้องแบบนี้เราก็ไม่เคยเหมือนกัน อันนี้อาจจะเป็นครั้งที่ 2-3 แต่ว่าคอนเสิร์ตล่าสุดอาจจะเป็นยิ่งใหญ่หน่อย เพราะว่ารวมศิลปินหลายค่าย”

แต่เมื่อถามถึงบรรยากาศว่าเป็นไงบ้าง โบว์บอกว่า “มันก็เงียบ คือฟีลบางเพลงมันไม่ได้ ฟีลมันไม่มา ไม่มีฟีลในการร้องเท่าไร แต่ก็สนุกดีค่ะ เป็นอีกหนึ่งงานที่เราไม่เคยทำ แล้วเราได้ลองทำเหมือนร้องเพลงในสตูเลย ร้องให้ตากล้องฟัง ร้องให้ผู้กำกับเวทีได้ดูแบบนี้ค่ะ” เจนเสริม “แล้วเราก็นั่งดูกันเองด้วย” ก่อนที่ทั้ง 3 สาวจะหัวเราะออกมา โบว์เล่าต่อ “จริงๆ ก็ชอบ แต่ว่าเรามีโอกาสน้อยค่ะ ถ้ามีโอกาสได้ซ้อมก็คงจะออกมาดีมากกว่านี้ แต่ว่าอันนี้ก็ทำดีที่สุดในวันนั้นแล้วค่ะ”

อยากทัวร์คอนเสิร์ตอีกครั้ง

ถึงแม้จะมีคอนเสิร์ตออนไลน์เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้นในวงการเพลงยุคโควิด แต่ก็เป็นการแก้ปัญหาได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น เพราะถึงอย่างไรก็คงไม่เหมือนกับการเดินสายทัวร์คอนเสิร์ตตามจังหวัดต่างๆ ที่จะมีรายได้เข้ามามากกว่า อีกทั้งอาชีพนักร้องในยุคโควิดได้รับผลกระทบก่อน และกลับมาทำงานทีหลังกว่าอาชีพอื่นๆ แถมยังมีการซัพพอร์ตเยียวยาน้อย

ซึ่งนุ่นเล่าว่า “พวกเราก็จะมองกันอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่รอบแรกแล้วว่าเหตุการณ์โควิดเกิดขึ้น อาชีพของเรามักจะโดนก่อน ละเวลาปลดล็อกก็จะเป็นทีหลัง เรื่องการซัพพอร์ตเยียวยาก็น้อยมาก” โบว์เสริม “อยากให้มีการซัพพอร์ตเนอะ ค่าใช้จ่ายพวกเรามีอยู่ทุกเดือนตลอด ไม่ได้หยุดเหมือนที่งานเราหยุด ถ้าให้ซัพพอร์ตคืออยากออกงานออกสื่อมากกว่า ช่วยโปรโมตให้เรา ให้เราทำงานได้ เหมือนช่วงที่เริ่มผ่อนปรนรอบแรกจัดคอนเสิร์ตเว้นระยะแบบนิวนอร์มอล ให้เราได้มีงานทำ ให้พ่อค้าแม่ค้าได้ออกแผงออกร้านกัน คนจัดมีงานจ้างเรา”

ถ้าสถานการณ์ดีขึ้นอีกครั้ง คิดว่าจะมีงานเยอะเหมือนเดิมหรือไม่ เจนตอบว่า “คิดว่าไม่เยอะค่ะ ดูจากเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ตอนนี้มันแย่จริงๆ แล้วคนที่เขาเคยจัดงานได้มาเจอช่วงที่หยุดไปเลยเขาก็ต้องมีรายจ่าย แล้วเวลาหาศิลปินทีหนึ่ง ก็ใช้เงินสูงเหมือนกัน จัดงานทีก็ต้องคิดแล้วว่าจะมีคนมาดูมั้ย แม่ค้ามาตั้งแผงเยอะมั้ย ซึ่งถ้าคลายล็อกจริงๆ ก็อาจจะไม่ได้ตั้งเยอะๆ คนจัดงานก็ต้องคิดแล้วว่าคุ้มมั้ย”

แต่หากมีการระบาดระลอกใหม่อีกครั้ง โบว์บอกว่า ต้องหาอาชีพใหม่อย่างจริงจัง เพราะอายุที่เพิ่มขึ้นทุกวัน “ตอนนี้พวกเราก็เตรียมหาอาชีพกันแล้วค่ะ ถึงมันจะได้เงินเยอะหรือเงินน้อย ก็ต้องเอากันแล้ว เพราะอายุที่มากขึ้น เราต้องมีอาชีพสำรองอยู่แล้ว ถามว่าทำด้วยกัน 3 คนมั้ย ก็ไม่แน่นะคะ คนนึงอาจมีหลายๆ อาชีพ อาจมีอาชีพไหนที่หุ้นกัน เพราะต้องดูด้วยว่าธุรกิจตอนนี้ก็มีมากขึ้นหลายแบบ เราก็ไม่รู้เลยว่าผู้บริโภคจะชอบมั้ย ไปได้แค่ไหนยังไง”

ปิดท้ายกับคำถาม ถ้าเป็นไปได้อยากฝากถึงผู้เกี่ยวข้องว่าอยากให้มีทางออกยังไง โบว์ตอบว่า ถึงยังไงก็ยังอยากกลับมาเล่นคอนเสิร์ตอีกครั้ง และพร้อมจะร่วมมือทุกอย่างที่ทำได้ “จริงๆ ช่วงนี้หลายจังหวัดก็คลายล็อก เริ่มให้จัดงานได้แล้ว แต่ก็ยังอยู่ในขอบเขต กฎที่เขากำหนด ก็อยากให้อีกหลายๆ จังหวัดช่วยผ่อนปรนให้พวกเรามีพื้นที่ในการทำงาน พวกเรายินดีให้ความร่วมมือในทุกข้อที่เราจะช่วยได้ เพราะว่าไม่ใช่แค่นักร้อง นักดนตรี ไหนจะแดนเซอร์ เครี่องเสียง ยิ่งงานร้าน ไหนจะเด็กเสิร์ฟ พริตตี้ พีอาร์ ทุกคนเดือดร้อนหมดค่ะ”.