Inside Dara
‘พาเมล่า เบาว์เด้น’สาวมั่น! สุขใจไร้แฟน

นอกจากนี้เธอยังมีผลงานด้านการแสดงละครทีวีอีกหลายเรื่อง ล้วนสร้างความประทับใจให้คนดูทั้งสิ้น มาถึงวันนี้ “ลูกน้ำ-พาเมล่า” สาวมั่นวัย 42 ปี ก็ยังดูสวยสดใสเหมือนเดิม

ห่างหายจากงานเบื้องหน้าไปนาน จนหลายคนสงสัยว่า เธอหายไปไหน เรากำลังพูดถึง “ลูกน้ำ-พาเมล่า เบาว์เด้น” นักร้องสาวชื่อดัง ที่เข้าสู่วงการบันเทิงในปี 2535 ด้วยการถ่ายแบบ และผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้กับเธอจนเป็นที่รู้จักกันดี จากการเป็นนักร้องแนวป๊อปแดนซ์ ในอัลบั้มเพลงชุด “ทอร์นาโด” จากนั้นก็มีผลงานอัลบั้มชุดที่ 2 “ระเบิดเวลา” และได้ย้ายไปสังกัดแกรมมี่ มีผลงานเพลงออกมาอีก 2 ชุด ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นแนวลูกทุ่งจนถึงปัจจุบัน เพลงที่ได้รับความนิยมคือ เพลงโบว์แดงแสลงใจ, ดอกกระเจียวบาน, รักพี่จุดจุดจุด

นอกจากนี้เธอยังมีผลงานด้านการแสดงละครทีวีอีกหลายเรื่อง ล้วนสร้างความประทับใจให้คนดูทั้งสิ้น มาถึงวันนี้ “ลูกน้ำ-พาเมล่า” สาวมั่นวัย 42 ปี ก็ยังดูสวยสดใสเหมือนเดิม อาจจะเปลี่ยนไปบ้างคือเจ้าเนื้อขึ้น..นิด ๆ หน่อย ๆ 555 ตามสไตล์ของคนที่มีความสุข

เพื่อไม่ให้เสียเวลา เรามาคุยกับเธอเลยดีกว่า เป็นไงบ้างคะ ไม่เจอกันนาน “สบายดีค่ะ ยังคิดถึงทุกคนอยู่ ช่วงนี้เริ่มออกมาแล้วค่ะ เพราะมีละครที่ถ่ายทำอยู่ 2 เรื่องคือ “พรายพยากรณ์” ของค่ายดูมันดี กับ “เพลงรักผาปืนแตก” และเป็นนักแสดงรับเชิญเรื่อง “คู่ปรับตำรับเฮี้ยน” ทางช่อง 7 นอกจากนั้นก็ยังเดินสายคอนเสิร์ตตามปกติ เหมือนที่ทำมาตลอดค่ะ”

“คาแรกเตอร์ในละครเรื่อง “พรายพยากรณ์” รับบท “กานต์กมล” เป็นแม่ของ “พิณชนิดา” (ปู-ไปรยา) และ “ภิชาสินี” (เปรี้ยว-ทัศนียา) ที่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุพร้อมกับสามี “ปราชญ์” (เดวิด อัศวนนท์) แต่ด้วยความที่รักและเป็นห่วงลูกสาวทั้งสอง จึงทำให้วิญญาณของทั้งคู่ ยังคงวนเวียนดูแลลูก ๆ จนโตก็ยังไม่ยอมไปผุดไปเกิด (ทั้งตัวพ่อและตัวแม่เสียชีวิตตั้งแต่ลูกยังเล็ก ๆ) เรื่องนี้คาแรกเตอร์ของน้ำจะเป็นคนที่มีนิสัยเรียบร้อย อ่อนหวาน แต่เวลาดุขึ้นมา คุณสามีก็ถึงกับขยาดไปเลยทีเดียว (หัวเราะ)”

ตอนนี้มีเงื่อนไขในการรับเล่นละครหรือเปล่า “เงื่อนไขในการรับละครตอนนี้ ก็คงจะอยู่ที่ “เวลา” เพียงอย่างเดียวเลยค่ะ ก็อย่างที่บอกว่าเราหายไปจากละครนาน กลับมาก็อยากปรุงรสให้เต็มที่ ไม่ต้องมีกั๊ก ส่วนผสมหรือเครื่องปรุงใด ๆ เป็นแม่ก็ต้องเป็นแม่จริง ๆ “แม่” ในละครมีหลายมิติ, หลายอารมณ์, หลายลีลา และหลากสีสันในการอบรมเลี้ยงดูลูก เราก้าวขึ้นมาอีกขั้นของการเป็นนักแสดงแล้ว เราเป็นผู้ใหญ่พอที่จะรับบทเป็นบุพการีของตัวละครอื่นแล้ว นี่คืออีกก้าวที่รอคอยเลยนะ ถ้าจะมีอุปสรรคใด ๆ ในตอนนี้ก็คงจะอยู่ที่การบริหารเวลาไม่ให้งานเดินสายที่รับไว้ มาชนกับคิวในการถ่ายทำแค่นั้นเองล่ะค่ะ”

มีบทอะไรที่รู้สึกอยากเล่น?? “ไม่มีบทอะไรที่ไม่อยากเล่นเลย รู้สึกว่าบทไหนก็สนุกไปหมด ได้เล่นหลาย ๆ บท หลาย ๆ คาแรกเตอร์ก็ทำให้เรามีประสบการณ์มากขึ้น อย่างใน “เพลงรักผาปืนแตก” นี่ร้ายมาก โหดมาก เหี้ยมมาก แต่พอมาเรื่อง “พรายพยากรณ์” นี่จะพลิกไปอีกทางหนึ่ง แบบตีลังกาม้วนตัว กลับหัวเล่นกันเลย (หัวเราะ) ทั้งสองเรื่องเล่นเป็นแม่ แม่ที่อยู่ในฝันของลูก ๆ ทั้งหลาย ทั้ง “ฝันดี” และ “ฝันร้าย” ให้ได้รับชมกัน”

มาที่งานเพลงบ้าง จะมีอัลบั้มชุดใหม่หรือยังค่ะ “สำหรับงานเพลง น่าจะยังไม่มีอะไรใหม่ ๆ ออกมาในช่วงนี้ เพราะอยากให้เวลาเต็มที่ กับทางกองละครด้วย แล้วก็ยังหาเพลงเหมาะ ๆ ไม่ได้ด้วย ขอรอดูตลาดนิดหนึ่งก่อนว่าจะไปในทิศทางไหน แนว ทางของเรามันไปกับความต้องการของผู้ฟังได้หรือไม่ เพราะถ้าตอนนี้ผู้ฟังกำลังนิยมเพลงแนวหนึ่ง แต่บังเอิญมันไม่ใช่ทางของเรา ฝืนทำสิ่งที่ไม่ใช่ เวลาเราไปเล่นคอนเสิร์ตเราก็ไม่อิน พอไม่อิน มันก็ไม่มีชีวิตชีวา แล้วถ้าแม้แต่นักร้องซึ่งเป็นเจ้าของเพลง ไม่ได้รู้สึกหรือเห็นคุณค่าของเพลงตัวเองจริง ๆ แล้ว คนฟังที่ไหนจะมามีอารมณ์ร่วมไปด้วย มันสำคัญมากนะ เพลงทุกเพลงที่แสดงสดในทุกเวที เรากล้าพูดว่าเรารักและภูมิใจในบทเพลงนั้น ๆ ของเราจริง ๆ คนดูเขาสัมผัสได้ค่ะ”

วางแผนเรื่องงานเพลงกับงานละครอย่างไรบ้าง “สำหรับช่วงนี้ที่มีโอกาสได้ลงละครอย่างเต็มตัว ก็คงจะขอทุ่มเทกับตรงนี้ให้เต็มที่ก่อนค่ะ อาจจะเบรกเรื่องของเพลงใหม่ ๆ ไว้ก่อน เพราะเราก็ยังสนุก สนานกันไม่เปลี่ยนแปลงกับเพลงที่มีอยู่ 12 ปีที่มาทำเพลงลูกทุ่งอย่างเต็มตัว เรามีเพลงเป็นจำนวนมากพอสมควรที่จะมอบความสุขให้กับคุณผู้ฟังทุกครั้งที่เจอกันในคอนเสิร์ต หากจังหวะทุกอย่างลงตัว เจอโปรดิวเซอร์ที่ทำงานไปในทิศทางเดียวกัน คงได้มีโอกาสผลิตเพลงใหม่ ๆ มาฝากกันแน่นอนค่ะ”

คุยเรื่องงาน...หากไม่ถามเรื่องของหัวใจ ก็ดูจะกระไรอยู่ ตอนนี้ความรักล่ะ สดใสดีอ่ะป่าว? “สดใสมากค่ะ ไม่มีใครเลยสักคน จริง ๆ ก็ไม่มีมานานแล้ว พอใจกับความโสด และมีความสุขกับการเป็นคนโสดค่ะ มองมุมหนึ่งมีก็ดี ในเรื่องของการให้กำลังใจ มีอะไรกุ๊กกิ๊ก ๆ เป็นสีสันของชีวิต แต่อีกมุมหนึ่ง ถ้ามีแล้วไม่คลิก พูดง่าย ๆ ไปกันไม่ได้ สื่อสารคนละภาษา (ใจ) ก็คงไม่มีความสุขเท่าไหร่ สู้อยู่คนเดียวดีกว่า แต่น้ำก็ไม่ได้ปิดกั้นตัวเองนะคะ อาจจะยังไม่เจอคนที่ใช่”

มุมมองความรักของลูกน้ำเป็นแบบไหนค่ะ “ก็ยังคงมองว่า ความรักเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้โลกมีความสมดุล และหมุนไปอย่างมีความสุขนะคะ ในที่นี้เราจะพูดถึงความรักของหนุ่มสาว หรือคู่รักเท่านั้นใช่ไหม ไม่เอาความรักแบบอื่นนะ (หัวเราะ) มุมมองของน้ำ น้ำมองความรักเป็นความห่วงหาอาทร เห็นอกเห็นใจ และให้เกียรติซึ่งกันและกัน คนรักกันพออยู่กันไปนาน ๆ มันจะกลายเป็นเพื่อนกันไปโดยธรรมชาติของความใกล้ชิด ทีนี้บางทีพอใกล้กันมาก ๆ บางทีมันก็มองข้ามสิ่งเหล่านี้ไป และบางทีเราก็อาจจะลืมที่จะ “เกรงใจ” ซึ่งกันและกันด้วย ซึ่งถ้าไม่ลืมจะดีมาก (ยิ้ม) เพื่อนกันควรจะรักและปรารถนาดีต่อกัน ตักเตือนกันได้ บอกกล่าวกันได้ และยอมรับกันได้ ถึงจะเรียกว่าเป็นเพื่อนแท้ที่ควรค่าแก่การรัก และทะนุถนอมไว้จนวันสุดท้ายของชีวิตค่ะ”

เดี๋ยวนี้นักแสดงผันตัวไปเป็น ผู้จัดฯ กันเยอะมาก ด้วยเข้าสู่ยุคทีวีดิจิตอล “ลูกน้ำ” มีโปรเจคท์จะทำบ้างหรือเปล่า “น้ำว่าพอมันเดินมาถึงจุด ๆ หนึ่ง นักแสดงหลาย ๆ คน ก็น่าจะอยากหันมาเป็นผู้จัดดูบ้างนะ ในอนาคตถ้ามีโอกาส น้ำเองก็คงจะไม่ได้อยู่ในข่ายยกเว้นเหมือนกัน แต่ตอนนี้มันน่าจะยังอยู่ในช่วง “สะสมประสบการณ์” ต่อไปอีกพักใหญ่เนอะ (ยิ้ม)”

มองวงการบันเทิง ณ ปัจจุบันนี้เป็นอย่างไรคะ หรือจะไปในทิศทางไหน? “วงการบันเทิงตอนนี้ มีความหลากหลาย และมีทางเลือกให้คนดูอย่างมากมายเลยนะ ช่องทางในการเผยแพร่ก็มากขึ้น เดี๋ยวนี้ข่าวสารข้อมูลมันไปไวเหลือเกิน แต่ด้วยความที่อะไร ๆ มันก็เร็วไปหมดนี่ล่ะ ความตรึงใจของคุณผู้ชมก็อาจจะรวดเร็วและไม่รู้สึกประทับใจแบบยาวนาน และด้วยการแข่งขันที่สูงขึ้นในทุกวันนี้ ทำให้คนที่จะได้เปรียบที่สุดก็คือ ประชาชนคนดู เพราะค่ายต่าง ๆ ก็จะต้องผลิตบุคลากร คือตัวของศิลปิน ดารา นักร้อง และตัวงาน คือ ละคร หนัง เพลง หรือรายการต่าง ๆ ให้ออกมาอย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพและคุณภาพมากที่สุด ยิ่งเรากำลังเข้าสู่ยุคทีวีดิจิตอลด้วยแล้ว ท่านผู้ชมอิ่มเอมแน่นอนค่ะ”

ยิ่งคุยก็ยิ่งติดลม เอาไว้โอกาสหน้าค่อยเมาท์กันใหม่เนอะ...บ๊าย...บาย.