Inside Dara
ไม่คิดมีใครอีกแล้ว! พุฒ มั่นใจ จุ๋ย คือคนที่ใช่ แต่งงานเพราะอยากมีลูก

เป็นคู่รักที่เริ่มมาจากการเป็นคู่จิ้น จนกระทั่งเป็นคู่จริงในชีวิตที่ใกล้จะแต่งงานกันแล้ว สำหรับ จุ๋ย วรัทยา กับ พุฒ พุฒิชัย ทั้งคู่ได้ผ่านอุปสรรคมาหนักหน่วง ทั้งกระแสแอนตี้ฝ่ายหญิง หรือกระแสข่าวที่ว่าทั้งคู่นอกใจแฟนมาเพื่อคบกัน

โดยในรายการ Club Friday SHOW ทางช่อง GMM25 โดยมี พี่ฉอด, พี่อ้อย และ อั๋น ได้ล้วงลึกความรักแบบเต็มๆ ทั้งคู่เล่าให้ฟังว่า

ทำไมในตอนแรกไม่บอกว่า เป็นแฟนกัน ทั้งที่เป็นแฟนกัน?

พุฒ “ตอนนั้นยังไม่บอกว่าเราเป็นแฟนกัน เราก็บอกว่า เป็นความสุขของกันและกัน(กอดไหล่จุ๋ย)”

จุ๋ย “เป็นเพื่อนสนิทก็ดูเป็นแพตเทิร์นเกิน”จุ๋ย “จุ๋ยว่าเป็นช่วงแรกๆ ที่เราไม่ควรผลีผลาม เราควรจะมั่นใจในจุดหนึ่งก่อน แต่คนทั่วไปก็ดูออกว่านี่คือการศึกษาดูใจกันอยู่ หรือคนธรรมดาก็เรียกว่าแฟนนั่นแหล่ะ แต่เมื่อเราเป็นคนของประชาชน คนของสื่อโซเชียล บางอย่างเราก็ต้องระมัดระวังในบางคำพูด แต่แค่สั้นๆ เท่านั้น พอเรามั่นใจเราก็พูดกันชัดเจน ไม่ได้มีอะไรปิดบังกันเลย”

เป็นคู่จิ้นจากละครเรื่อง ฝันเฟื่อง?

จุ๋ย “ตอนนั้นเราโปรโมตกันหนักมาก และอีกอย่างคำว่าคู่จิ้นมันดูแปลกๆ ดี พอมีก็รู้สึกว่าโชคดี”

จากความเป็นเพื่อน แล้วมาเปลี่ยนเป็นแฟนตอนไหน?

จุ๋ย “ผ่านไปประมาณ 3 เดือน มีการตัดต่อแล้วละครกำลังจะออนแอร์ เค้าก็ได้ติดต่อให้เรามาเจอกันอีกครั้ง ซึ่งในระหว่าง 3 เดือนนั้นเราไม่ได้ติดต่อกัน ไม่ได้รู้จักกันหรืออะไรกันเลย ยกเว้นในกลุ่มไลน์ละคร และได้กลับมาทำงานด้วยกันอีกครั้ง ก็ได้เดินสายโปรโมทกัน จนละครออนเรา เราโปรโมทสุดพลังเลย

แต่จุ๋ยอ่ะได้จบกับคนเก่าไปตั้งแต่ก่อนที่ละครจะจบแล้ว คือเลิกไปแล้วประมาณสัก 2-3 เดือนได้ แล้วนักข่าวยังไม่รู้ พุฒเค้าก็จะรู้พร้อมทุกคนเหมือนกัน ก็คือเราไม่ได้คุยกันเรื่องส่วนตัวเลย เค้าก็ไม่ได้ซักถาม เราก็ไม่ได้จำเป็นที่จะต้องไปป่าวประกาศบอกใคร นอกจากเพื่อนสนิทจริงๆ แล้วพอละครออนแอร์จบไปปุ๊บ พุฒเค้าก็ได้เลิกรากับคนรักเก่าเค้าเหมือนกัน”

พุฒ “ของผมรู้เรื่องเค้าจากข่าว ส่วนเรื่องของผมเองก็สักพักหนึ่งเลยครับ แล้วก็เลิก จากนั้นสักพักหนึ่งก็ได้มาคุยกัน แต่จำไม่ได้ว่า ใครคุยใครก่อน”

จุ๋ย “เค้าแอดไลน์เรามาก่อนค่ะ เพื่อถามถึงเรื่องรองเท้าวิ่ง จากนั้นเราก็คุยกันเรื่องนี้ ซึ่งพุฒเค้าก็มีคุยเรื่องส่วนตัวกับเราบ้าง แค่นิดๆ หน่อยๆ ไม่ได้จริงจังอะไร จนเรารู้กันว่า ต่างคนต่างโสดกันทั้งคู่ จนเราเริ่มต้นมาคุยกันอย่างจริงจัง ว่าแบบมันอาจมีอะไรดีๆ ระหว่างเราสองคนก็ได้ ที่มันยังทำให้เรารู้สึกคิดถึงกันอยู่

ถึงทำให้เราเริ่มต้นคุยกัน ถ้าเราไม่โสดกันทั้งคู่ มันก็จะเป็นอะไรที่คุยแล้วไม่สนิทใจ แล้วตั้งแณิธานไว้เลยว่า เราต้องสนิทกันก่อน ต้องโสดกันก่อนถึงจะเริ่มต้นความรักครั้งใหม่ เราไม่ได้มีความรักเผื่อเลือก เราไม่ต้องการมีอารมณ์ที่รู้สึกว่า หลบๆ ซ่อนๆ ในการคบ ซึ่งอันนี้เรามั่นใจแน่นอน”

จุ๋ยมองพุฒยังไง ทำไมรู้ว่าคนนี้คือคนที่ใช่?

จุ๋ย “ที่ผ่านมาเราอาจเห็นความน่ารัก ความเป็นเพื่อน ความดีของเค้าโดยไม่ต้องเสแสร้ง ไม่ต้องมาทำเหมือนคนจะจีบกัน ซึ่งแบบนี้มันเป็นธรรมชาติ จุ๋ยว่ามันดีที่สุด ไม่ชอบคนเข้ามาจีบจังๆ และต้องการจะเอาชนะ อันนี้มันเหมือนค่อยๆ เรียนรู้ เห็นความดีของกันและกัน

คือของ พุฒ เค้าก็ให้เกียรติความรักครั้งเก่าของเค้า ด้วยการที่เค้าก็ไม่ได้บอกเลยว่า เลิกโดยทันที ดังนั้นคนก็จะรู้ช้ากว่าสิ่งที่พวกเราเผชิญกัน พุฒเองเค้าก็รู้ว่า จุ๋ยเลิกกับรักครั้งเก่าช้าตั้ง 2 เดือน กว่าที่นักข่าวเค้าจะเริ่มจับไต๋ได้ ของพุฒเอง เค้าก็ให้เกียรติว่า มันไม่จำเป็นที่จะต้องออกมาบอกว่า เราโสด

เค้าก็ให้เกียรติให้มันมีเวลารักษากัน แต่ช่วงนั้นมันก็ไม่ผิด ถ้าเกิดว่าเราจะเริ่มคุยกันบ้าง ในช่วงที่เราต่างคนต่างโสดแล้ว แต่คนนอกไม่รู้รายละเอียด เค้าก็จะตีความต่างๆ นานา ซึ่งในช่วงนั้นเราพูดแบบนี้ไม่ได้ เพราะมันเซ้นซิทีฟกับรักครั้งเก่าเกินไป เนื่องจากยังสดๆ ทั้งคู่ เดี๋ยวสักวันเวลามันก็จะจัดการตัวมันเอง เหมือนวันนี้ เราได้แต่งงานกัน หลายๆ คนที่ข้องใจในตอนนั้น พอได้ดูตอนนี้ก็เข้าใจและมันก็โอเคแล้วค่ะ”

เครียดมั้ยกับข้อกล่าวหาที่เจอกัน?

จุ๋ย “คือรู้อยู่แล้วว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงค่ะ พ่อกับแม่ก็บอกให้ปล่อยวางมันเถอะ”

พุฒ “คือปล่อยให้เป็นกระบวนตามกาลเวลาของมัน เดี๋ยวทุกอย่างจะคลี่คลายมันเอง ถ้าเราจริงของเรา 2 คน”

ใครอ่อนแอกว่ากัน?

จุ๋ย “ในวันที่เค้าแย่ทางเรื่องฝั่งเค้า เราจะเข้าไปปลอบ แต่ในวันที่เป็นเรื่องฝั่งเรา เค้าจะเข้ามาปลอบ เพราะว่าในช่วงนั้นความดังของพุฒเนี่ย มันมีกระแสมากมายเยอะไปหมด มันไม่ใช่เรื่องนี้เรื่องเดียว มันมีกระแสพุฒดังแล้วเปลี่ยนไป”

ต่างคนต่างเลิกกับคนของตัวเอง นานมั้ยที่จะเจอรักครั้งใหม่?

จุ๋ย “สำหรับจุ๋ยมันไม่ได้ถึงปีนะคะ แล้วก็รู้สึกว่าเราโตแล้ว และรู้ว่าสิ่งที่เราผ่านมากับรักครั้งเก่า มันด้วยเหตุผลอะไร ถ้ามันไม่ได้ทำร้ายจิตใจเราขนาดนั้น หรือเราเองแข็งแรงพอ

เราก็พร้อมจะเริ่มใหม่ เพราะว่าความรักในแต่ละครั้ง มันก็มีเรื่องดีๆ ของมัน แต่มันอาจจะไม่ใช่วาระของในครั้งนั้น และเค้าอาจไม่ใช่ความสุขของเรา ซึ่งจุ๋ยก็ประคับประคองให้ดี พยายามมาเกือบปี แต่มันก็ไม่มีความสุขอยู่ดี”

หลังจากที่พุฒเลิกรากับแฟนเก่า?

พุฒ “หลังจากวันที่เราเลิกรา เราก็ตั้งปณิธานกับรักครั้งใหม่ว่า จะไม่ให้เป็นเหมือนที่ผ่านมา ยอมรับตามตรงว่า เราก็ไม่ใช่ผู้ชายที่ดีอ่ะ เราก็เป็นเพลย์บอย คุยหลายคน

เราค้นพบว่า การใช้ชีวิตความรักแบบนั้นมันเหนื่อยมาก และบั่นทอนความรู้สึก พอจบกับรักครั้งเก่า เลยบอกกับตัวเองว่า ถ้ามีรักครั้งใหม่เราจะทำมันให้ดี เราอยากจะโตขึ้น เป็นผู้ชายที่ดีขึ้น ถ้าเราเจอคนที่ใช่ เราก็พร้อมจะที่จะดูแลเค้าให้ดี และจะไม่ทำให้มันพัง”

จุ๋ย “ตอนแรกที่ไม่เอาเค้าเลย เพราะรู้ว่าเค้าเจ้าชู้ แต่มันก็ลบล้างไปด้วยความน่ารัก ความดีของเค้าที่มันมาเอง แต่เชื่อว่าเค้าได้บทเรียนแล้ว”

รู้สึกปิ๊งเค้าตอนไหน?

พุฒ “ในวันที่เราทำแต่งานอย่างเดียว รู้สึกว่าชีวิตมันจะทำงานอย่างเดียวไม่ได้เนอะ มันก็ควรจะมีความรัก แล้วเราก็นึกถึงผู้หญิงคนนึง ซึ่งเป็นเค้า”

จุ๋ย “มันเหมือนคิดถึงบรรยากาศที่เราเคยได้คุยกัน ซึ่งเราก็เป็น พอเราโสด แล้วมันสามารถคิดถึงอีกคนหนึ่งได้แล้วเนี่ย มันจะเหมือนมีเพลงเข้ามาในหัว เป็นเพลงละคร ความทะเล้นของเค้าเข้ามา”

พุฒ “เราอาจเคยเจอคนอื่น แต่ไม่มีภาพนั้นในหัว มีแต่ภาพเค้านี่แหล่ะที่เข้ามา”

ด้วยความที่เราเริ่มต้นจากการเป็นเพื่อนสนิทกันมากๆ แล้วเรามาเป็นแฟน งงมั้ยว่าจะเรียกกันว่าอะไรดี?

จุ๋ย “วันที่นัดเจอกันวันแรก เค้ามารับ เราก็คิดอยู่ว่าจะทำตัวยังไงดี”

ตอนนั้นพุฒเองก็เป็นพุฒตึกแตก มีผู้หญิงมาชื่นชอบมาก แล้วเราจะต้องมาเป็นแฟนกับพุฒ แน่นอนว่าต้องมีเสียงกระแทกจากคนรอบข้างบ้าง ตอนนั้นเจออะไรบ้าง?

จุ๋ย “ก่อนที่จะคบกันเราเจอคำว่าคู่จิ้นกันมาก่อน แต่เราก็ไม่ได้คิดตรงนั้นเลยว่า มันจะมีกระแสที่ไม่ดีออกมา แต่ด้วยความที่เป็นพุฒตึกแตก เค้าดังมากๆ ซึ่งจุ๋ยก็เข้าใจกับวงการบันเทิงพอสมควร แต่ก็ไม่ได้ตั้งรับกับกระแสเลยนะคะ ที่มันจะมาในแง่ลบ”

ตอนนั้นเจออะไรบ้าง?

จุ๋ย “คือพุฒเค้าเล่นละครกับใครก็จะมีบ้านคู่ แต่พอมาเป็น พุฒ-จุ๋ย ด้วยความที่เราเป็นคนแบบนี้ แฟนคลับก็จะไม่ค่อยอึกทึกครึกโครม ไม่ค่อยกรี๊ดกร๊าด ด้วยความที่เรามีอายุแล้ว

ที่เห็นมีแฟนคลัมาเชียร์ก็จะเป็นเด็กๆ แต่เค้ามาด้วยความรักนะคะ มาชื่นชมในการแสดงของพุฒ ความเป็นตัวตนของพุฒ แต่เราต้องเข้าใจว่า ณ วันนั้นมันจะมีกระแสลบกับเรา ว่าไม่อยากให้เป็นแฟน ไม่ดี แก่ ดำ นิสัยไม่ดี ต่างคนต่างไปเลิกกับแฟนมาแล้วมาคบกัน”

พอเริ่มมีกระแสแอนตี้ เราเจออะไรบ้าง?

พุฒ “พอเริ่มมีกระแสแอนตี้ เราก็เริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่าทำไมเหรอ ความรักมันเป็นสิ่งที่ผิดเหรอ คือเราจะรู้กันอยู่ว่า สิ่งที่เราเป็นความรักที่เกิดขึ้นเราทำถูกต้อง เราทำเพราะผมรักเค้าจริงๆ อยากดูแลเค้าจริงๆ ในตอนที่เค้าเจอกระแสแอนตี้ ด่าในโลกโซเชียล เราก็ให้กำลังใจ นี่คือคนที่รักจริงๆ

ถ้าเกิดว่าเราคบกันแล้ว แล้วรู้สึกว่าเค้าไม่ใช่คนที่เราจะคบไปกับเค้ายาวๆ เราอาจจะไม่ออกมาปกป้องหรือพูดถึงแต่งงาน และนี่คือคนที่เราจะคบไปเรื่อยๆ จนถึงวันที่จะแต่งงาน”

เคยเสียน้ำตามาแล้ว?

จุ๋ย “มันก็มีค่ะ มีผลกระทบต่อหลายๆ อย่างเหมือนกัน มีผลกระทบต่องานบ้างอะไรบ้าง แล้วไม่รู้ว่า คนรอบข้างจะเข้าใจรึเปล่า ก็เคยมีข่าวว่า พี่ฉอดไม่ปลื้ม พุฒไปทำงานสายเพราะจุ๋ย จุ๋ยจะไปเปลี่ยนอะไรเค้าได้ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ากระแสข่าวนั้นมาจากไหน”

พุฒ “ตอนนั้นมีกระแสที่เกี่ยวกับดราม่าแฟนคลับ ทุกวันนี้ก็ยังติดอยู่ในใจ ถ้าย้อนกลับไปได้เราจะไม่ทำแบบนั้น เพื่อที่ว่าเรื่องจะได้ไม่เกิด คือตอนนั้นเราถ่ายรายการเลิก 5 ทุ่ม แล้วเรามีกฎว่า

ไม่อยากให้มารอหลังรายการเลิก เพราะมันดึกมากแล้ว แฟนคลับเราเป็นเด็กๆ ทั้งนั้นเลย เราก็เลยตัดสินใจกลับบ้านเลย โดยที่ไม่ได้เซอร์วิสแฟนคลับในวันนั้น เพราะเรารู้สึกอยากทำให้กฎนั้นมันศักดิ์สิทธิ์ กลายเป็นว่า วันรุ่งขึ้นเป็นข่าวเลย ว่ารีบกลับไปกินเย็นตาโฟจุ๋ย”

จุ๋ย “เราก็งงมาก ไม่รู้เรื่องรู้ราวเลย เพราะวันนั้นเราทำเย้นตาโฟอยู่ที่บ้านให้ผู้จัดการกิน เค้าก็โยงว่าเราทำให้พุฒกิน”

พุฒ “ซึ่งในเหตุการณ์นั้นก็เสียใจ เค้าก็รักเราอ่ะ เราก็รักเค้า จากเหตุการณ์นั้นจากรักเลยกลายเป็นเกลียด ถ้าย้อนกลับไปได้เราก็เลือกที่จะทำวันนั้น สื่อสารกันใหม่ ด้วยวันนั้นเราอาจจะเหนื่อย และยังไม่มีวุฒิภาวะโตอย่างวันนี้ เลยอยากจะขอใช้พื้นที่ตรงนี้ขอโทษแฟนคลับเหล่านั้นที่มารอ”

จุ๋ย “จุ๋ยเข้าใจเค้ามากเลยนะคะ เพราะมันเป็นความหวังดีให้กับน้องๆ เด็กๆ ซึ่งแฟนคลับเค้าเป็นผู้หญิงทั้งนั้น บางคนเอาลูกเล็กๆ มาด้วย ถ้ามีแค่ 5-10 คน พุฒเค้าเซอร์วิสแน่นอน แต่วันนั้นรอเต็มลิฟท์อ่ะค่ะ การที่จะเสร็จจบ กลับหมดทุกคนใช้เวลาถึงเที่ยงคืนได้ เค้าเลยเป็นห่วง คิดเยอะค่ะ”

กลัวมั้ยว่า พอเปิดตัวมีแฟน จะแต่งงานอาจทำให้เรตติ้งเราตก?

พุฒ “ผมว่าความรักอ่ะ ถ้าเกิดเจอคนที่มันใช่ เจอคนที่รู้สึกว่าเราอยากใช้ชีวิตคู่กับเค้า ถ้าเราดูแลเค้าไม่ดี ทิ้งๆ ขว้างๆ ไม่ดูแลความรู้สึกเค้า ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า อีกกี่ปีข้างหน้า ผมจะได้เจอแบบนี้อีกรึเปล่า ตอนนั้นเรารู้สึกว่าเราเจอคนนี้อยากดูแลเค้า แล้วความรักกับงานผมแยกกันเป็นคนละส่วน

เราอยากดูแลเค้าดีๆ แล้วความดังมันเป็นวัฎจักรเดี๋ยวมันแล้วก็ต้องไป เรารู้สึกว่ามันจะอยู่กับเราได้ไม่นาน แต่ถ้าความรักที่รู้สึกว่ามันใช่แล้วเนี่ย พอมันหายไปแล้ว ผมไม่มั่นใจว่าจะได้เจออีกมั้ย จะว่าแลกก็ได้ครับผม แต่สิ่งหนึ่งที่มันดีก็คือเหมือนเป็นประสบการณ์ที่ทำให้เราโตขึ้นในอนาคต”

จุ๋ย “ก็มีคนรอบข้างคัดค้านเค้านะคะ ว่าดังมากๆ เมื่อก่อนไม่ได้ค่าตัวเท่านี้นะ คือเค้าต้องให้ใจจุ๋ยมากๆ ซึ่งช่วงนั้นเป็นการพิสูจน์เหมือนกัน เราไม่ได้เลือกเค้าที่ความดังหรือรวย

เพราะก่อนที่จะรู้จักกัน เค้าก็ยังไม่ได้รวยหรือมีเงินจากการทำงาน หรือดังขนาดนี้ เพราะฉะนั้นจุ๋ยเลือกเค้าตั้งแต่แรกที่เป็นเค้า ไม่ได้เป็นพุฒที่มีชื่อเสียง”

อะไรคือจุดที่เรารู้สึกว่า พร้อมแล้วที่อยากแต่งงาน?

พุฒ “ผมรู้สึกว่าอยากมีลูก ผมพร้อมแล้ว เราจะมีความเอ็นดูเด็กๆ ถ้าเกิดว่าเรามีครอบครัว มีลูก ก็อยากมีลูกในวันที่เรายังแข็งแรง เพื่อที่ว่าเราไปเที่ยวด้วยกันได้ ไม่ต้องกลัวว่าเราแก่ ไม่ไหวแล้ว อยากมีสัก 3 คนครับ จะได้ไม่เหงาดี บ้านเราก็สร้างใหญ่”

จุ๋ย “การแต่งงานเราต้องเจอคนที่ใช่ด้วยค่ะ เจอคนที่คิดว่าเราจะใช้ชีวิตอยู่กับเค้าไปจนถึงบั้นปลายชีวิต เค้าจะต้องมารับรู้ชีวิตเราทุกอย่าง จุ๋ยพาไปเจอทุกคนในชีวิตเรา ก็ผ่านหมด

เพราะฉะนั้นมันไม่มีข้อกังขาอะไรแล้วสำหรับคนนี้ คนที่จะมาเป็นพ่อของลูกเราในอนาคต หรือว่าจะเป็นคนที่คู่ทุกข์ยากในอนาคต มันต้องรู้สึกแบบนี้ก่อนที่จะตัดสินใจแต่งงานกับคนคนนึง เพราะที่ผ่านมา ความรักมันไม่ได้ทำให้เรารู้สึกแบบนี้”

ใครเริ่มคุยเรื่องแต่งงานก่อน?

จุ๋ย “เห็นด้วยร่วมกัน เราก็รีบวางแผนว่าจะต้องปีนี้ ถ้าแต่งปีนี้แล้วมีลูกทัน มันจะต้องเป็นปีที่เสริมพ่อ จุ๋ยก็หว่านล้อมเค้าต่างๆ นานา”

ตอนนี้จะเป็นสามีภรรยากันจะต้องมีอะไรปรับอีกมั้ย?

จุ๋ย “ไม่มีค่ะ

มาถึงวันนี้ใกล้จะถึงวันแต่งงาน?

จุ๋ย “ตอนนั้นอาจจะเป็นกระแสลบ แต่เค้าก็เลือกเรา และเค้าก็สามารถพิสูจน์มาตลอดเวลาที่เราคบกันมาสามปีกว่าๆ ได้เป็นอย่างดีว่าทุกๆ วันเขาเสมอต้นเสมอปลาย”

พุฒ “ชีวิตนี้ผมไม่อยากมีใครอีกแล้ว ผมอยากจะให้เขาเป็นแม่ของลูกผม ผมอยากจะเดินทางจับมือกับเขาไปจนถึงวันที่เราแก่เฒ่าไปด้วยกัน อยากจะรักกันตลอดไปครับ”