Inside Dara
จากกันด้วย (ไม่) ดี จับตาอนาคต ของ “พลอย” ในวันที่พ้นช่อง 3

..... มาให้กำลังใจถึงที่ ใจที่สุด น้องรักคนนี้ เรื่องหน้าต้องเจอกันซักเรื่อง!!! @lydiasarunrat รักน้องมากนะน้องเป็นคนน่ารักและจริงใจกับพี่พลอยมาก ขอบคุณมากจริงๆ ที่มาอยู่ด้วยกันในวันที่พี่ขาดกำลังใจ.....

ข้อความที่ “พลอย-เฌอมาลย์ บุณยศักดิ์” โพสต์ และแท็กถึงน้องสาวคนสนิท “ลีเดีย-ศรัณย์รัชต์ ดีน” ในไอจีส่วนตัว @cherman ของเธอเองนั้น นอกจากจะบ่งบอกถึงมิตรภาพอันแนบแน่นของทั้งคู่ ในฐานะพี่-น้องร่มวงการแล้ว ถ้าจับสังเกตกันดีๆ ก็แอบบอกนัยถึงความรู้สึกโดดเดี่ยวของพลอยในเวลานี้ได้เหมือนกัน

ความโดดเดี่ยว อันอาจเกิดจากการพ้นสัญญาจากช่อง 3 และเป็นนักแสดงอิสระอย่างเต็มตัว ซึ่งแน่นอนว่า ย่อมขัดกับคำสัมภาษณ์ที่เธอยืนยันกับสื่อมวลชน ว่า....เป็นการจากกันด้วยดี

“วันนี้ก็เป็นนักแสดงอิสระเต็มตัวแล้วค่ะ ทำงานได้ทุกที่เลยค่ะ ตอนนี้ก็คิดว่าคงขอเป็นฟรีแลนซ์ถาวรเลยนะคะ ตัวพลอยทำงานมาตั้งแต่เด็ก ปีนี้ก็ปีที่ 24 แล้วสำหรับอาชีพนักแสดงค่ะ

ที่ผ่านมาก็จะดูเองเป็นหลักอยู่แล้วนะคะ แต่ว่าเมื่อก่อนพลอยก็เติบโตมากับละคร ละครช่อง 7 พลอยก็เคยเล่นมาแล้วนะคะ ช่อง 3 ด้วย สลับกันไปมา

พอโตมาก็ผันตัวมาเป็นนักแสดงสังกัดช่อง 3 ตลอดค่ะ ตอนนี้เราโตพอที่จะทำงานที่ไหนก็ได้แล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องมีสังกัดแล้ว กับผู้ใหญ่ก็มีการพูดคุยกัน ทั้งคุณแม่พลอยและผู้ใหญ่ ทุกคนก็ค่อนข้างเข้าใจ ไม่ได้ติดอะไรค่ะ ทุกคนเข้าใจค่ะ"

ขณะที่คุณสมรักษ์ ณรงค์วิชัย รองกรรมการผู้จัดการและรักษาการผู้จัดการฝ่ายการผลิตรายการ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ก็ให้สัมภาษณ์ไปในทิศทางเดียวกัน

แต่นัยจากข้อความที่โพสต์ถึงลีเดียนั้น ทำให้รู้ว่าสิ่งที่ทั้งฝั่งพลอยเอง และฝั่งช่อง 3 ออกมาให้สัมภาษณ์นั้น อาจจะมีร่องรอยของความบาดหมางลึกๆ ในใจซ่อนอยู่

คำถามคือ..... พลอยรักที่จะเป็นนักแสดงอิสระจริงๆ

หรือเพราะทางช่องเองต่างหาก ที่เลือกจะไม่ต่อสัญญากับเธอ !!?? เพราะแม้แต่คอนเสิร์ตฉลองครบรอบช่อง ยังไร้เงาพลอยขึ้นเวที ทั้งที่ตอนนั้นสัญญายังไม่หมด

ตัวแม่ระดับพลอย เป็นไปได้ยังไง ที่ช่อง 3 จะไม่รั้งไว้

ที่ฉุกคิดถึงประเด็นนี้ขึ้นมา ก็เพราะย้อนกลับไปนึกถึงปมปัญหาเก่าที่พลอยเคย “เหวี่ยง” ใส่สื่อมวลชนที่มาทำข่าวตอนที่เธอมีประเด็นกับไฮโซชื่อดัง ซึ่งเธอยืนยันว่าเป็น “ข่าวมั่ว” และเป็นฟืนเป็นไฟ ถึงขนาดดึงแขนนักข่าวคนที่ยิงคำถามให้ออกมาโชว์ตัวกลางวงสัมภาษณ์

จากเรื่องนี้เอง ที่เป็นเสมือน “ฟางเส้นสุดท้าย” ที่ทำให้สัมพันธภาพระหว่างพลอยกับสื่อมวลชนขาดสะบั้น ถึงขนาดที่สื่อทุกสำนักพร้อมใจกันแบน ด้วยการ “งด” ทำข่าวเธอทุกกรณี เพราะรับไม่ได้กับพฤติกรรมก้าวร้าวที่ปฏิบัติต่อสื่อมวลชน

จริงอยู่ที่บางคำถาม อาจจะดูเหมือนเป็นการก้าวล่วงถึงเรื่องส่วนตัวมากเกินไป แต่ในฐานะบุคคลสาธารณะ ทุกคนก็มองว่า น่าจะเลือกวิธีปฎิเสธที่จะตอบคำถามการที่ละมุนละม่อมมากกว่านี้

การเป็น “คนตรง” กับ “คนแรง” บางทีก็ห่างกันแค่เส้นบางๆ กั้น

ครานั้น ถือว่าเป็นหนึ่งในกรณีศึกษาของวงการบันเทิงเกี่ยวกับพฤติกรรมของดารากับสื่อฯ โดยนักข่าวบันเทิงรุ่นใหญ่ ท่านหนึ่ง ให้สัมภาษณ์โดยยกตัวอย่าง “อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ” ขึ้นมาเปรียบเทียบกับการกระทำของพลอย

“อยากให้มองอั้ม-พัชราภาว่า ทำไมเขาเป็นที่รักของนักข่าว เพราะแม้บางครั้งเขาจะวีนหรือเหวี่ยงนิดหน่อย แต่เป็นการเหวี่ยงแบบน่ารัก เวลาเหวี่ยง เขาก็หันกลับมายิ้ม เพราะเขามีสติ พลอยต้องก้าวความเป็นตัวตนของตัวเองออกมาให้ได้มากที่สุด”

ตรงนี้ อาจจะเป็นการจุดชนวนที่ทำให้ผู้บริหารช่อง 3 นำมาพิจารณาเกี่ยวกับการจะต่อสัญญากับพลอย

เพราะการที่นักแสดงในสังกัดคนใดคนหนึ่ง ถูกนักข่าว “แอนตี้” ย่อมไม่เป็นผลดีกับทางสถานีแน่นอนอยู่แล้ว ง่ายๆ เลยก็คือละครที่นักแสดงคนนั้นเล่น ก็อาจจะไม่ได้รับการสนับสนุนข่าวเท่าที่ควร

แล้วเรื่องอะไรที่ช่อง 3 จะต้องมาเสี่ยง แม้จะเป็นช่องใหญ่ แต่ก็ยังต้องอาศัยการร่วมด้วยช่วยกันจากสื่อสำนักอื่นๆ อยู่ดี

เพราะนับจากที่ถูกนักข่าวลงมติแบน พลอยมีละครของช่องเพียงเรื่องเดียว และเป็นเรื่องสุดท้ายก่อนหมดสัญญา นั่นก็คือ “สายลับรักป่วน” ซึ่งทิ้งห่างจากเรื่องก่อนหน้านี้ คือ “สามีตีตรา” ถึง 2 ปี

ในระหว่าง 2 ปี ที่ไม่มีละคร ถ้าเป็นนางเอกเบอร์ใหญ่ๆ คนอื่น อย่างอั้ม-พัชราภา อย่างชมพู่-อารยา ก็อาจจะไม่มีอะไรกระทบกระเทือน เพราะยังสามารถโกยเงินจากงานอีเวนต์อื่นๆ ได้อีก แต่สำหรับพลอย...ไม่ใช่ เพราะการมีปัญหากับนักข่าว ย่อมส่งผลถึงการถูกจ้างงานอื่นๆ ด้วย เพราะเจ้าของงานคงคิดหนัก ว่าถ้าต้องจ่ายค่าตัวดาราแพงๆ มางานอีเวนต์ แต่ไม่มีนักข่าวมาทำข่าวให้ ก็เท่ากับเสียเงินฟรี

เรื่องนี้มีคนแอบมาเล่าให้ฟังว่า มีอีเวนต์งานหนึ่งที่จ้างพลอยไปร่วมงาน ทีมพีอาร์ฟรีแลนซ์ถึงขนาดต้องจ้างนักข่าวผีมาลงชื่อเข้างานตบตาเจ้าของงาน เพื่อให้ได้ยอดตรงตามที่ตกลงทำสัญญากัน ไม่งั้นตัวพีอาร์เอง ก็อาจจะโดนหักค่าตัว ในฐานะที่ทำงานไม่เข้าเป้า ขนาดว่าเรื่องผ่านมาเนิ่นนานถึง 3 ปีแล้ว นักข่าวก็ยัง “แค้นฝังหุ่น” ทุกวันนี้ เวลางานไหนจะมีพลอยมาร่วมงาน นักข่าวถึงขนาดต้องหยั่งเสียงในกรุ๊ปไลน์เลยว่า จะมีสื่อสำนักไหนมาร่วมงานบ้าง

ถามว่าช่อง 3 ไม่มีพลอยแล้วจะสะเทือนหรือไม่ ? อย่างไร ?

ตอบชัดๆ เลยว่า .....ไม่

เพราะคาแรกเตอร์ที่เล่นดีก็ได้ เล่นร้ายก็แรงนั้น ในช่องก็มีอยู่ไม่น้อย ถ้าเป็นรุ่นๆ เดียวกัน ก็มีทั้งชมพู่-อารยา มีทั้งเจนี่ เทียนฯ หรือถ้าเป็นรุ่นเล็กลงมา ก็มีคิมเบอร์รี่ , แมท-ภิรนีย์ แม้กระทั่งญาญ่า-อุรัสยา ก็โดนจับให้สลัดคราบแบ๊วมาเล่นบทแรงๆ และพิสูจน์ฝีมือกันไปแล้ว จาก “คลื่นชีวิต”

ในทางกลับกัน เมื่อพลอยไม่ได้อยู่ช่อง 3 แล้ว อนาคตจะเป็นอย่างไร !!?? ตรงนี้ต่างหากที่น่าสนใจ

การเป็นนักแสดงอิสระ หรือฟรีแลนซ์ อาจจะดีในแง่ที่ว่าสามารถรับงานได้หลากหลาย ร่วมงานได้กับทุกช่อง แต่ในระยะยาว ใครจะรับประกันว่าจะมีงานต่อเนื่องหรือเปล่า ?

เอาเข้าจริงๆ ผู้หญิงสายดาร์กอย่างพลอย มองว่าเหมาะกับสไตล์ของช่อง Gmm 25 ตามที่ประเดิมรับงานในฐานะนักแสดงอิสระในละคร “ความรักครั้งสุดท้าย” ของช่อง Gmm25 ซึ่งก็ได้กระแสเพราะถือว่าเป็นช่องแรกที่ดึงพลอยมาร่วมงานได้ และต่อให้ทางช่องไม่ติดใจเรื่องที่พลอยยังมีปัญหาคาใจกับนักข่าว แต่ละครของช่องก็มีแค่ปีละ 4 เรื่อง (ไม่นับซิรี่ส์พวก Club Friday หรืออื่นๆ) จะมีบทให้พลอยเล่นสักกี่เรื่องเชียว

จะไปช่อง 7 ก็ต้องไปรับสภาพความเป็นรองอั้มอยู่ดี แถมคาแรกเตอร์แบบพลอย ก็ใช่ว่าจะเหมาะกับที่นั่น คือถ้าช่อง 7 ปลื้มพลอย ก็คงจับเซ็นสัญญาไปนานแล้ว เพราะเคยเล่นละครให้ช่องมาก่อน คงไม่ปล่อยให้หลุดมือไปช่อง 3 หรอก

ถ้าจะไปช่อง One ก็ดูน่าสนใจ แต่พระเอกในช่องที่จะเล่นประกบได้ ก็ดูเหมือนจะมีแค่ป้อง-ณวัฒน์คนเดียว ส่วนคนอื่น ดูเด็กกว่าเยอะ นอกจากจะได้เล่นบทสาวใหญ่ที่มีรักต่างวัยกับหนุ่มรุ่นน้อง เหมือนในเรื่อง “ความรักครั้งสุดท้าย”

ส่วนช่อง 8 ตัดไปได้เลย เพราะอิมเมจของช่อง ไม่น่าจะดึงดูดพลอยแน่ๆ ในขณะเดียวกัน ช่องเอง ก็คงไม่กล้าสู้ค่าตัว

ก็เป็นเรื่องที่น่าจะต้องจับตามองกันอยู่ไม่น้อย เกี่ยวกับอนาคตในวงการบันเทิงของพลอยในวันที่ก้าวพ้นฐานะนักแสดงสังกัดช่อง 3