Inside Dara
11 ปี วงการเพลง 'ดา เอ็นโดรฟิน' ไม่เคยลืมอดีต เผยชีวิตรัก ขึ้นๆ ลงๆ คุย 'ฌอน' ยอมถอยคนละก้าว

สวนกระแส!! ชาวบ้าน ชาวช่อง นักร้องสาว ดา เอ็นโดรฟิน หรือ ธนิดา ธรรมวิมล แหกกฎแนวร็อก เตรียมคลอดอัลบั้มเพลง เร็วๆนี้ ท่ามกลางธุรกิจเพลงซบเซา คนไม่นิยมควักตังค์ซื้อแผ่น ซึ่งมุ่งมั่นตั้งใจทำงานเพลงด้วยชี้ชัดตัวตนที่แท้จริงเป็นสไตล์บ้าพลัง พร้อมยอมรับสถานการณ์เลิฟกับหนุ่มฌอน อยู่ในทิศทาง “ถอยห่าง” แต่ยังเป็นเพื่อนกันได้ ถึงแม้ทุกวันนี้ชีวิตแต่งงานยังห่างไกล

แว่วๆ มาว่ากำลังเตรียมออกซิงเกิลใหม่

“มีซิงเกิลเพลงใหม่แต่ออกอัลบั้มเลย โชคดีดา ทำ 3-4 เพลงได้ออกอัลบั้มเลย คือตอนนี้หลายๆคนทำอัลบั้มเพื่อคอนเน็กชั่นของแฟนเพลง ปล่อย 3 ซิงเกิลแล้ว เพลงที่ 4 กำลังตัดสินใจเอาอะไรออกทั้งหมด ใครได้ฟังก็คือเป็นตัวดา 90 เปอร์เซ็นต์ เขียนรักเอย ขึ้นทำนองเพลง 5 เพลงเอาไว้ด้วย ใครชอบหรือไม่ชอบแล้วแต่ แต่อยากจะบอกว่าคือนิสัยดาจริงๆ ที่ดามีให้แฟนเพลง ใครซื้อไปเหมือนทำความรู้จักดาอีกครั้ง” ศิลปินสมัยนี้พอบอกว่าทำอัลบั้มเริ่มห่างไกลนะดาไม่กลัวเหรอ “ด้วยการเสพของคนเปลี่ยนไป โซเชียลฯมีทั้งดีและไม่ดี โหลดฟรี แต่ดามั่นใจถ้าผลงานเราซื้อใจแฟนเพลงได้ แฟนเพลงก็ยอมเสียเงินเพื่อซัพพอร์ต ต้นเหตุอยู่ที่ผลงานของเราทั้งนั้น ดาอยากให้ศิลปินทุกคนหันมามองเรื่องนี้ พูดตรงๆ อยู่มา 11 ปีแล้วเงินไม่ใช่ปัจจัยหลักของชีวิตดาต่อไป โลกมันเปลี่ยนอยู่ ศิลปินต้องจริงใจประมาณนึง เป็นโจทย์ยากขึ้นแต่เราต้องตั้งใจทำงานมากขึ้น ศิลปินต้องครีเอทีฟงานใหม่ๆขึ้นมา”

เด็กวัยรุ่นมองดาเป็นไอดอล จนยึดเราเป็นต้นแบบรู้สึกยังไงบ้าง

“ดีใจค่ะ ที่เด็กเห็นความตั้งใจของเรา ใครได้ยินประวัติของเราจะรู้ว่าเป็นยังไง ดาไม่ได้เป็นนักร้องฝึกหัดเรียนร้องเพลง เรียนเต้น เราไม่ได้มานับหนึ่งแดนซ์สคูล ดานับหนึ่งในผับ เล่นตามงานปิดถนน ที่ถนนข้าวสารบ้าง สีลมบ้าง เพื่อหาค่าขนม พอเด็กๆได้ยินเรื่องของเราแล้วไปปรับใช้ก็รู้สึกยินดี” เฟซบุ๊กมีติดตามดาทะลุล้าน “ใช่ค่ะ ตอนนี้ สองล้านหกแล้ว ในระยะเวลา 5 ปี คนที่ติดตามเรานอกจากคนได้เห็นผลงานเราแล้ว ยังสะท้อนตัวตนของเรา ดาคิดว่ามันคือตัวจริงให้เค้าเข้าใจและรู้จักเรามากขึ้น ยิ่งอยากรู้จักผลงานมากขึ้น และตัวดาใช้เวลา 5 ปี กว่าที่บ้านยอมรับ อยู่ในวงการมา 11 ปี กว่าจะมีวันนี้ ช่วงชีวิตของดาน่าจะเป็นกระจกสะท้อนให้วัยรุ่นได้ มันต้องเข้มแข็ง อย่าเพิ่งท้อ ถ้าเรามีความตั้งใจจริงๆ”

เห็นช่วงนี้เล่นกีฬาหลายอย่าง โยคะอะไรก็เอา

“มันได้ประโยชน์กับตัวดาจริงๆ มาทำงานอึดขึ้น แรงเยอะขึ้น ไม่เหนื่อยมากขึ้น ทำให้เรามีสมาธิด้วย” มีคนสะกิดเตือนเพลาๆ ความบ้าพลังมั้ย “จริงๆก็ติดความบ้าพลังมาจากงานด้วย เวทีใหญ่ๆขนาดนั้น ถ้าเราอยู่นิ่งๆ จะไปสนุกอะไร มันก็เคยความไฮเปอร์แอคทีฟมันได้มาตั้งแต่เด็กด้วย ตอนเด็กๆ เป็นนักกีฬาวิ่ง วอลเล่ย์และก็มาเล่นดนตรี ความบ้าพลังค่อยๆก่อตัวตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว เป็นคนอยู่นิ่งไม่ค่อยได้ ถ้าวันไหนไม่มีคอนเสิร์ตจะต้องออกกำลังกาย ต้องปลดปล่อย” เคยเบื่อตัวตนแบบนี้ไหม ระเบิดเสียงหัวเราะ “ดาว่าการที่มีพลังงานแอคทีฟไม่พลาดการเรียนรู้การผจญภัยใหม่ๆ เราได้อะไรดีๆ กลับมาจากการไปเที่ยวและทำให้เราหลั่งสารเอ็นโดรฟิน เป็นความบ้านั่นเอง (หัวเราะ)” คนรอบข้างมีบ่นดาพลังเยอะช่วยอยู่นิ่งๆมั้ย “ทุกคน เพื่อนๆร่วงไปแล้วแต่ตัวเองยังแหกปาก แต่เอาจริงๆ เป็นเรื่อง งานก็ค่อนข้าง ดุเหมือนกันต้องเป๊ะ แต่ถ้าไม่ใช่เวลาทำงานเราก็จะเต็มที่บ้าบอคอแตก”

ชีวิตเคยมีตรงกลางมั้ย

“ไม่เคร่งเครียดและบ้าพลังเกินไป ทุกคนผิดได้ไม่ว่า แต่ช่วงที่ฟังขอให้ฟังกัน” มีใครโดนดาด่าดุจนน้ำตาร่วงมาแล้วบ้าง “มีน้องสาวดาค่ะ คนละขั้วกันมากๆ น้องสาวเป็นแนวผู้หญิงเกาหลี แต่ดาเลือกทวีปได้แอฟริกาใต้ น้องจะโดนบ่อยจะทะเลาะกัน แต่จริงๆ หวังดี” มุมการใช้ชีวิตของดาดูจริงจังไปทุกเรื่องมั้ย “เซฟก่อนค่อยสนุก เป็นคนเป็นแบบนี้ จะวางแผนชีวิต มีแพลนเอ บี ซี มีไว้เฉยๆ ถ้ามีตัวช้อยส์ให้เลือกน้อยเรามุ่งมั่น อย่างทำอัลบั้มเสร็จดาอยากทำธุรกิจลิปสติก เห็นเกิดคนใกล้ตัวจะถามใช้ลิปสติกอะไร อายไลน์เนอร์อะไร พักหลังๆมาเอ็นโดรฟินมีเพลงกับแฟชั่นเข้าไปเป็นตัวบวกกับผลงานมากขึ้นเรื่องการแต่งหน้าทำตัว มากับคำถามเด็กๆ เสื้อเข้ากับสีตา เริ่มมีคัฟเวอร์ เข้ามา เมกอัพเป็นตัวชูโรง มีคนถามลิปสติกอะไร ทำให้คิดเมืองไทยยังไม่มีสีเจ็บๆ แบบนั้น แบรนด์ “ชูก้า ดาด้า” เป็นรูปเป็นร่าง กวนสีเอง สีอะคริลิค ใส่ตลับ ไปส่งแล็บ” มาสายศิลปินนักร้อง แต่ขยับมาทำเรื่องสวยๆ งามๆ ยังไงกันเนี่ย “จริงๆ ไม่ใช่เรื่องสวยงามแต่เป็นอาร์ตแฟชั่นมากกว่า ธุรกิจตั้งใจวางขายปีใหม่”

ความรักตอนนี้ล่ะพร้อมมากๆ หรือเปล่า

“ความรักก็ขึ้นๆลงๆ ตามประสาทำงานผู้หญิงอย่างพวกเรา คนที่จะมาเป็นคนคนนั้นของดาจะต้องเป็นเบสเฟรนด์ เพื่อนที่ดีที่สุด ไม่ใช่แค่แฟนแต่ต้องเพื่อนแท้ๆเท่านั้น มันจะอยู่ด้วยกันยืด ชีวิตดาไม่ได้ปกติ ไม่ใช่สาวออฟฟิศเข้างาน 9 โมง ไม่รับโทรศัพท์ มีเรื่องราวมากมายที่จะต้องเข้าใจ ใจเย็น ค่อยๆไป” ดากับฌอนล่ะเพราะก่อนหน้านี้มีข่าวว่าห่างกัน “คือเราก็มีทะเลาะกัน เบรกดาวน์กันแล้วนะพี่แล้วก็กลับมาคุยกัน ทำความเข้าใจ เบรกดาวน์รอบสอง แล้วก็ทำความเข้าใจอีกทีนึง ส่วนตัวดาคิดว่าดาอายุน้อย ทำให้เรามีความแอดเวนเจอร์สูง อายุ 28 ย่าง 29 ยังไม่ได้ทำอะไรบ้าง บางทีการมีแฟนไม่ใช่ไม่ดีแต่อาจจะมีปัญหาเส้นบางๆ ทำให้ทะเลาะกันโดยเราไม่ตั้งใจให้เกิด ดาถึงขอให้แฟนคนนั้นเป็นเบสเฟรนด์มากที่สุด มันจะทำให้เราสบายตัวมากขึ้น ตอนนี้ยังคบกันแต่เทคไทม์ให้มันช้าลง ตอนนี้กลายเป็นว่าถอยแล้วทำให้เราสบายใจ ถอยกันมาประมาณ 2-3 เดือนแล้ว แต่ยังคุยกันทุกวัน” คิดถึงภาพแต่งงานบ้างมั้ย “คิดถึงภาพตัวเองใส่ชุดแต่งงานไม่ออกแต่คิดถึงตัวเองปาร์ตี้ริมหาด ยังอีกนาน เคยคิดแต่ง อายุ 32 แต่ตอนนี้เลื่อนเป็น 35 ถ้าไม่แต่งก็ไม่แล้วล่ะมั้ง (หัวเราะ)”.