Inside Dara
หน่อง เผยสถานะ แพรวา เป็นตู้เพลงเคลื่อนที่ ยังไม่ใช่แฟน แต่มากกว่าเพื่อน

หลังถูกหลายคนจับตาเรื่องสถานะ สำหรับ หน่อง ธนา ฉัตรบริรักษ์ และ แพรวา ณิชาภัทร เนื่องจากพักหลังมานี้ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย แถมฝ่ายชายยังคอมเมนต์ในไอจีแซวถี่ๆ แถมก่อนหน้านี้ บอย ปกรณ์ พี่ชายฝ่ายชายได้แอบแง้มมาแล้วว่าทั้งคู่สนิทกัน แต่สนิทกันแค่ไหนให้มาถามเจ้าตัวเอง

โดยเรื่องนี้ สาวแพรวา ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ยอมรับก่อนว่า สนิทสนมกับ หน่อง ธนา จริงๆ แต่สถานะจะเป็นอะไรนั้นโบ้ยให้มาถามฝ่ายชายเอาเอง

ล่าสุดวันที่ 13 ก.ย. “ข่าวสดบันเทิงออนไลน์” มีโอกาสได้เจอ หน่อง ธนา ในงานทำบุญ “สตูดิโอคุณแม่” ที่ ซ.ลาดพร้าว 15 เลยไม่พลาดเอาคำตอบมาบอกกัน

แพรวาบอกให้ถามหน่องเรื่องสถานะ?

"จริง ๆ ก็อย่างที่น้องบอกว่าเรารู้จักกันอยู่แล้ว ตอนที่เคยไปทำงานที่เกาหลีด้วยกัน แต่ว่าก็ไม่ได้มาเจอกัน หรือมาแฮงเอาต์กันจะไม่มี แต่เมื่อประมาณต้นปีที่ผ่านมาน้องเขาติดต่อมาถามเรื่องงาน ผมก็ติดต่อคนที่เขาจะคุยงานด้วยไปให้แค่นั้นเอง"

เราเริ่มจีบเขาตั้งแต่ตอนนั้นเลยใช่ไหม?

"ที่คุยกับเขาเป็นช่วงนั้นเลย ช่วงประมาณเดือน มี.ค. ถามว่าอะไรที่ทำให้รู้สึกอยากคุยกับน้อง ด้วยความที่ตอนนั้นผมก็ยังไม่ได้มีคนอยู่ด้วย แล้วน้องก็น่ารักดี

เราจีบเขาก่อน?

"ใช่ครับ ส่วนใช้มุกไหน เพราะเห็นน้องบอกว่าเราเป็นคนตลกนั้น เหรอ...ผมก็งง ผมก็คุยกับคนแบบนี้เป็นเรื่องปกติมั้ง เขาก็คงมองว่าเป็นเรื่องตลก แต่ผมไม่ตลก(ยิ้ม) ส่วนว่าถูกใจเขาตรงไหน ตอนแรกผมไม่ได้รู้จักเขาหรอก เหมือนกับค่อยๆ คุย ค่อยๆ รู้จักกัน"

แพรวาบอกว่าสนิทกัน แต่สถานะอะไรให้มาถามเรา?

"ถ้าเกิดว่าถามในตอนนี้ น้องเขาเป็นเหมือนตู้เพลงเคลื่อนที่ของผมแล้วกัน เจอกันทีไรน้องจะร้องเพลงเรื่อยเปื่อย เหมือนแหกปากไปเรื่อย จะหยุดก็ไม่ได้"

เป็นตู้เพลงที่ต้องหยอดอยู่เรื่อยๆ?

"ไม่ครับรุ่นนี้เสียบปลั๊ก วันไหนไม่หยอด ตู้เพลงก็ไม่เล่น(ยิ้ม) ถามว่าจุดนี้ทำให้หลงรักเสียงของเขารึเปล่า ไม่ได้หลงนะ บางทีก็โมโห บางทีเขาร้องเพลงมันๆ เขาก็จะโหวกเหวกเลย"

ความสัมพันธ์ตอนนี้คืออะไร?

"ก็แฮปปี้ดี ส่วนว่าถ้าคนจะเรียกแฟนโอเคมั้ย ตอนนี้ถ้าพูดตรงๆ คือยังไม่ใช่ แต่ว่าเขาก็ไม่ใช่เป็นแค่เพื่อน อยู่ในช่วงที่กำลังศึกษา กำลังพัฒนา จริงๆ ไม่ได้รีบอะไร เอาจริงๆ เรารู้จักกันก่อนโควิด-19 หลังจากนั้นประเทศก็ปิดประมาณ 2-3 เดือน เพิ่งได้มาเจอกันช่วงหลังๆ นี้เอง"

ช่วงโควิด-19 ได้พูดคุยกันยังไงบ้าง?

"ผมเป็นตัวซวยเลย ทำน้องติดโควิด-19 พอรู้จักปุ๊บ น้องติดเลย คุยกันได้ประมาณ 2 อาทิตย์มั้ง"

น้องติดโควิดไม่น่าเกี่ยวกับเราหรือเปล่า?

"คือด้วยความที่ตอนนั้นคนก็แพนิกกันว่าจะเป็นหรือเปล่า แล้วมีช่วงนึงน้องเขาเหมือนจะมีไข้อย่างที่ออกข่าวไป น้องก็ไปหาหมอ พอวันที่ผลออกน้องเขาก็พิมพ์มาว่า พี่ๆ ผลออกแล้วนะ หนูติดโควิด ผมก็ตอบกลับไปว่า เชื่ออะไรได้บ้างครับ เพราะด้วยความที่พูดกันทุกว่าฉันติดหรือเปล่า เธอติดหรือเปล่า แล้วสักพักน้องเขาก็โทร.มา ซึ่งเราฟังเสียงก็รู้ว่าเป็นจริงๆ"

ตอนนั้นให้กำลังใจกันยังไง?

"ช่วงที่น้องอยู่โรงพยาบาลจะไปเยี่ยมก็ไม่ได้ ได้แค่โทร.คุยก็ช่วยคลายเหงาเขาได้บ้างแหละ ถามว่าโทร.หาคุยกันตลอดมั้ย ตอนนั้นก็ไม่ถึงกับตลอด เพราะเป็นช่วงแรกๆ ที่เพิ่งรู้จักกันด้วย"

แล้วตอนนั้นกลัวไหมว่าจะติดโควิดจากน้อง?

"อ๋อ...ตอนนั้นพอรู้เสร็จใช่ป่ะ คือก่อนหน้านั้นผมก็ไปเจอนะ แต่ว่าพอวันที่รู้ว่าเขาติดเชื้อโควิด บ่ายวันนั้นเป็นวันที่บ้านรู้ว่าผมคุยกับน้องเขา ก่อนหน้านั้นยังไม่มีคนรู้เลยเพราะผมเองก็เพิ่งคุยไง เลยเรียกแม่ๆๆ มานี่หน่อย แอบไปบอกแม่ที่บ้านว่าเป็นอย่างนี้นะ เขาก็ไม่ได้ตกใจ เลยเรียกทีมแพทย์ที่มีตรวจที่บ้านมาตรวจกันทั้งบ้านเลย"

ทางแพรวาบอกว่ามีโอกาสได้เจอคุณแม่แล้ว?

"ใช่ครับ ถามว่านานมั้ยกว่าจะได้เจอกับครอบครัว ประมาณเดือนที่แล้วมั้งครับที่ได้เจอกับที่บ้าน ผมก็ชวนเขาไปกินข้าว ถามว่าแนะนำกับแม่ว่าอะไร แม่ก็รู้จักอยู่แล้วว่าคนนี้คือแพรวา คือไม่ได้อะไรพูดอะไร แค่บอกว่าน้องแพรวามากินข้าวด้วย แม่ก็ไม่ได้ถามอะไร จริงๆ ครอบครัวไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยครับ"

คุณแม่ไฟเขียวไหม?

"ผมไม่ได้ถามแม่เลย คือก็มีคุยกับแม่ แต่ด้วยความที่แม่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรก็คงเป็นอย่างนั้นมั้ง ผมก็คิดว่าอย่างนั้นนะ"

ตอนนี้ก็เดินหน้าคุยต่อ?

"ตอนนี้ก็ยังไม่มีสาเหตุอะไรให้ต้องหยุดครับ เท่าที่คุยกันมาถามว่าไลฟ์สไตล์โอเคกันมั้ย ถ้าจริงๆ มันก็มีบ้างแหละ ด้วยเรื่องของอายุ ผมโตมายุคนึง เขาโตมาอีกยุคนึง บางเรื่องที่เขาอาจจะไม่รู้เราก็แค่บอกเขาคุยกับเขา หรือบางเรื่องที่ผมไม่รู้ เขาก็บอกผม ค่อยๆ ปรับกันไป"

ส่วนใหญ่ใครปรับเข้าหาใคร?

"ทั้งคู่ครับ เพราะถ้าเกิดมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องปรับเข้าหากันมากเกินไปมันก็ไม่น่าจะดี"

แสดงว่าหลังจากนี้มีผู้ชายคนอื่นมาจีบแพรวาไม่ได้แล้วใช่ไหม?

"อ้าวเหรอ! อันนั้นก็ต้องแล้วแต่เขาครับ"

เราเองก็ห้ามไปจีบคนอื่นด้วยใช่ไหม?

"ตอนนี้ก็คุยอยู่คนเดียวครับ (ยิ้ม)"