Inside Dara
แกงส้ม ธนทัต ทำงานในวงการ 10 ปี ช่วยครอบครัวปลดหนี้ 20 กว่าล้าน

ต้องยอมรับว่า แกงส้ม ธนทัต ชัยอรรถ หรือที่หลายๆ คนรู้จักในชื่อ แกงส้ม เดอะสตาร์ เป็นหนุ่มเก่งมากความสามารถ ร้องเต้นและเล่นละครได้ดีไม่แพ้ใคร

ล่าสุดแกงส้มขึ้นนั่งแท่นบริหารค่ายเพลง OGME ENTERTAINMENT ปั้นศิลปินเลือดใหม่ ซึ่งวันนี้ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ แกงส้ม จึงไม่พลาดที่จะพูดคุยถึงเรื่องราวชีวิตและเรื่องงานของเจ้าตัว ซึ่งแกงส้มเผยว่า

ตอนนี้มาทำงานเบื้องหลัง ผมเริ่มทำมาเรื่อยๆ ก็มีทำเพลงให้ศิลปิน ทำเพลงละคร เพลงซีรีส์ ก็เริ่มมีงานแบบนี้เข้ามาเยอะ ก่อนหน้านี้เด็กๆ รุ่นใหม่ก็อยากทำเพลงมากขึ้น เราก็ได้คอนเนกชันเพิ่มขึ้น ได้การรับการแนะนำมาจากหลายๆ คนมากขึ้นว่าเราทำอันนั้นได้อันนี้ได้

และผมชอบการทำงานกับเด็กรุ่นใหม่ เพราะเขาจะมีวิธีคิดอีกแบบนึงที่เราว้าว ซึ่งนั่นก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่เติมไปของเราให้รู้สึกว่ายังอยากทำ ยังอยากอัปเตดเทรนด์ และให้มุมมองอะไรผมมากขึ้น

ทำให้เหมือนผมได้มองย้อนกลับไปวันแรกที่เรามีเอเนอร์จี้แบบนี้ และมันเป็นความท้าทายกับตัวผมเองด้วย งานเบื้องหลังสำหรับผมสนุกมาก

แต่ผมก็ไม่ทิ้งงานเบื้องหน้าครับ แต่งานเบื้องหน้าที่ผ่านมามันอาจจะถูกเบรกด้วยสถานการณ์โควิด และผมก็ตั้งใจให้เห็นภาพว่าผมทำเบื้องหลังอย่างจริงจังนะ ไม่อย่างนั้นไม่มีใครไว้ใจให้เราไปทำหรอก ถ้าผมไม่ย้ำภาพแบบนี้

ผมก็จะกลายเป็นนักร้องอย่างเดียวในสายตาเขา การที่เราจะทำให้ใครไว้ใจได้ก็ต้องมีภาพและผลงานตรงนั้นก่อน ถ้าเราพิสูจน์ว่าเราทำได้งานก็จะเข้ามาหาเราแค่นั้นเลย

แต่ในแง่เบื้องหน้าของความเป็นนักร้องเรายังมีแพสชั่น ออกเพลงเรื่อยๆ ให้คนรู้ว่าเราเป็นนักร้อง และงานเบื้องหน้ากับเบื้องหลังเราไม่ห่างกัน เพลงก็ทำเอง เบื้องหลังก็ทำเอง มันไม่ได้แยกออกจากกันชัดเจน

ส่วนงานแสดงตอนนี้ผมยังเบรกไว้อยู่ ก็มีติดต่อมาบ้างแต่ด้วยความที่ผมตั้งเข็มทิศชีวิตว่าเราอยากทำตรงนี้ให้มันดีก่อน มันกำลังมาดีแล้ว แต่มันยังไม่ได้มั่นคง

อยากเซตตรงนี้ให้มั่นคงก่อน จะได้ไม่ต้องมานั่งตุ๊มๆ ต่อมๆ ว่าเรามีเวลาไปทำอีกพาร์ตนึงมั้ย เพราะงานละครมันใช้เวลาค่อนข้างเยอะและต้องทำให้ดี แต่ผมก็ยังไม่ทิ้งการแสดงครับ

วันแรกที่เป็นเดอะสตาร์ก็แต่งเพลงเอง ถึงวันนี้เหมือนได้พิสูจน์ตัวเอง?

ต้องขอบคุณช่องวัน ที่เป็นคนแรกๆ ที่ลองให้ได้ทำอะไรแบบนี้ อย่างเล่นละครก็ให้แต่งเพลงด้วย เขาให้โอกาสผม และผมก็เริ่มได้งานตรงนี้มากขึ้น ได้ทำงานกับที่อื่นๆ จนเริ่มมองว่าน่าจะทำเป็นอาชีพได้

และวันนี้มันก็กลายเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่มันตอบโจทย์ในชีวิต ทำให้ผมรู้สึกว่าได้กลับไปเป็นแกงส้มในเวอร์ชันแรกก่อนจะเข้าวงการ ที่คิดเพลง แต่งเพลง อยู่กับดนตรีร้อยเปอร์เซ็นต์ เหมือนว่าเด็กคนนั้นกลับมาในเวอร์ชันที่โตขึ้น พัฒนาขึ้นจนทุกคนยอมรับว่าเราทำได้

แกงส้มเป็นเสาหลักดูแลครอบครัว มาประกวดเดอะสตาร์ เพื่อช่วยปลดหนี้?

ใช่ครับ ทุกวันนี้บ้านผมหนี้ยังไม่หมดเลย คนอื่นจะชอบสงสัยว่าทำงานมา 10 ปี ทำไมหนี้ไม่หมดสักที คือหนี้ประมาณ 20 กว่าล้านบาท

เพราะบ้านผมเป็นยุคเปลี่ยนผ่านที่คนไม่ค่อยใช้โรงพิมพ์ พออิงก์เจ็ตเข้ามาคนจะทำหนังสือในจำนวนน้อยๆ เขาก็ไม่ต้องใช้โรงพิมพ์แล้ว ก็เลยโดนช่วงนั้นซัดหนักมาก

ก่อนผมมาประกวดเดอะสตาร์ 8 เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านพอดี แม่ก็พยายามสู้มาให้มันเลี้ยงไปได้ แม่จะชอบทำว่าทุกอย่างปกติ

แต่พอผมออกจากบ้านเดอะสตาร์ปุ๊บ ก็รู้แล้วว่ามันไม่ปกติ ก็ต้องนั่งคุยกับแม่และครอบครัวว่ามันยังไง มีอะไรบ้าง ก็วางแผนกันว่าค่อยๆ เพราะผมก็บอกว่าเป้าหมายผมไม่ใช่ปิดหนี้ให้เร็วที่สุด

เป้าหมายผมคือปิดไปทีละก้อนๆ เพราะผมก็ต้องเอาเงินบางส่วนมาต่อยอดของเราด้วย เหมือนต้องแยกเป็นสองขา ขานึงใช้หนี้ ขานึงก็ต้องซื้อทรัพย์สินเก็บไว้ด้วยเพื่ออนาคต

มันเลยกลายเป็นว่ามันอาจจะหมดช้าหน่อย แต่วันนึงมันหมดแหละ มันจะได้หมดไปพร้อมกับทรัพย์สินที่เป็นของเราเองบวกเข้ามาด้วย

ถ้าไม่อย่างนั้นวันนี้ผมอาจจะหมดหนี้ แต่ผมไม่มีทรัพย์สินอะไรเลย เพราะหนี้บางก้อนเราค่อยๆ ใส่ไปได้ ประจวบเหมาะกับวัยเราก็กำลังหาความมั่นคงในชีวิต ผมก็เป็นเสาหลักใช้หนี้ทั้งหมดคนเดียว

ส่วนคุณพ่อท่านทำงานหาเงินมาก็ดูแลในบ้าน ก้อนหนี้จะเป็นผมที่ดูแลตรงนั้น ถามว่ากดดันมั้ย ก็บางครั้งครับเพราะจะมีบ้างในช่วงที่งานเราได้รับผลกระทบด้วยสถานการณ์ต่างๆ

และในระหว่างที่ปลดหนี้ผมก็อยากให้ครอบครัวดีขึ้นด้วย ก็มีการดูแลตรงนั้น ดังนั้นคำว่าหมดช้าจัง มันมีเหตุผลของมันอยู่แล้วครับ ตอนนี้ก็ใกล้จะหมดแล้ว เหลือไม่เยอะครับ