Inside Dara
"มารี"ปรับตัวมีพลัง ยืนหยัดอยู่โลกมายา!

เข้าวงการบันเทิงมาเมื่อ 3 ปีที่แล้ว กับการถ่ายโฆษณา สำหรับนางเอกสาวลูกครึ่งไทย-เยอรมัน วัย 20 ปี "มารี เบรินเนอร์"

จนเมื่อปีกลายได้ลงเล่นละครครั้งแรก "สามหนุ่มเนื้อทอง" ประกบพระเอก "บอย"ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ ต่อด้วยละคร "แววมยุรา" กับพระเอกคนเดิม

ล่าสุดกับผลงานละคร "รักคุณเท่าฟ้า" ที่กำลังออกอากาศทางช่อง 3 และละคร "แม่เปียดื้อ" ที่กำลังถ่ายทำ

งานกำลังรุ่ง ชื่อเสียงกำลังดังก็มาโดนสกัดดาวรุ่งด้วยมรสุมข่าว ทั้งขาดวินัย ไม่มีสัมมาคารวะ ไร้มนุษย สัมพันธ์ ไม่ทำการบ้าน เกาเหลากับหนุ่มบอย และอื่นๆ อีกจิปาถะ


วันนี้เคลียร์ข่าวที่ผ่านมาหน่อย

มารี - "เรื่องไม่ทำการบ้านมีที่มา แต่ข่าวออกไปดูแรงมาก อ่านแล้วยังตกใจ ส่วนที่เราผิดพลาดก็ปรับแล้ว ส่วนเรื่องอัธยาศัยไม่ดีอาจเพราะไม่ค่อยยิ้ม เลยต้องพยายามยิ้มมากขึ้น จริงๆ ไม่ได้มีปัญหากับใคร ไม่ได้แอนตี้ใคร และไม่ได้ไม่พอใจใครทั้งสิ้น แต่เพราะเราไม่ค่อยยิ้มเท่านั้นเอง"

"และเรื่องที่มีปัญหากับพี่บอยก็แล้วแต่คนนะ เพราะการทำงานต้องดูว่ามันคลิกแค่ไหน บางทีทำงานด้วยกันความคิดในการทำงานอาจจะมองคนละมุม คิดเห็นไม่ตรงกันบ้าง แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เรายังปกติ ร่วมงานกันได้"


หลังเจอมรสุมข่าว สภาพจิตใจเป็นไงบ้าง

มารี - "ตอนนี้ข่าวเงียบไปแล้ว แฮปปี้เหมือนเดิม ไม่ท้อ ไม่เครียด ไม่คิดมากเพราะผ่านจุดนั้นมาแล้ว สบายดี ทำงานได้เต็มที่ แต่ก่อนหน้านี้กระแสแรงมาก อยู่ดีๆ ก็มีข่าว แต่ไม่ค่อยเครียด เพราะรู้สึกว่าเป็นจุดที่ใครๆ ก็ต้องผ่านไปให้ได้ ถ้าดูภาพรวมไม่มีผลอะไรต่อเราเท่าไหร่ เป็นผลดีด้วยซ้ำที่คนดูจะรู้จักเรามากขึ้น"

"ถามว่ามีข่าวเยอะๆ เคยคิดถึงขั้นลาวงการไหม ไม่ค่ะ จริงๆ ก็มีปรึกษาคุณแม่ แต่เขาให้ตัดสินใจเอง"


ล่าสุดเห็นไปญี่ปุ่นกับครอบครัว แต่ข่าวว่าหลบไปเพื่อให้ข่าวซา

มารี - "จริงๆ คิดไว้ว่าจะเก็บเงินพาครอบครัวไปเที่ยวต่างประเทศอยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับข่าวเลย เป็นความบังเอิญ ทำงานหนักมาก็อยากพาครอบครัวไปเที่ยวเพื่อตอบแทนบ้าง เพราะคุณแม่บ่นอยากไปญี่ปุ่นนานแล้ว พอมีเงินเป็นของตัวเองเลยพาท่านไป ถ้าคิดจะหนีข่าวไปจริงๆ คงหนีไปแล้วไม่กลับมาเลย (หัวเราะ) ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้"


คิดว่าข่าวต่างๆ ที่ออกมา เกิดจากอะไร

มารี - "ปรับตัวไม่ทัน เพราะวงการนี้ไม่ได้ร้ายและไม่ได้ดีหมด ต้องอยู่ให้เป็น ต้องเรียนรู้ว่าต้องยิ้มกับใคร น่ารักกับใคร คุยกับคนไหนแบบไหนถึงไม่เอาเราไปด่าลับหลัง มีหลายอย่างมาก เราเองก็วางตัวไม่ถูกด้วย เข้ามาตรงนี้คิดแค่ว่าเป็นตัวเองก็พอ ไม่เฟกใส่ใคร

มารี - "ไปไหนมาไหนต้องระวังตัว เพราะมีคนมองเราอยู่ตลอดเวลา แต่บางทีเรายังไม่ชิน เพราะเมื่อก่อนออกไปไหนไม่มีคนสนใจ แต่พอช่วงหลังๆ เข้ามาวงการแล้วเริ่มมีคนจับตามองก็ต้องระวังตัวมากขึ้น"


ผู้ใหญ่มีเรียกเข้าไปคุยไหม

มารี - "ไม่ค่ะ หนูเดาว่าเขาอาจจะดูจากการสัมภาษณ์การตอบคำถามของเราที่น่าจะโอเค ก็ต้องดูว่าเราปรับตัวยังไง ถ้าเห็นว่าเราไม่ปรับตัว เขาถึงเข้ามาเตือน จริงๆ ผู้ใหญ่ทางช่องไม่เคยห้ามหรือว่าอะไร ยกเว้นช่วงแรกๆ ที่มีภาพหลุด และเราก็เข้าหาผู้ใหญ่เพราะเราต้องการขอคำแนะนำ แต่ก็ไม่มีอะไร ไม่เคยโดนว่าและเรียกเข้าไปคุยหรือห้ามอะไรเลย"


ดูเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง

มารี - "พูดตามตรง หนูไม่ได้มีเพื่อนในวงการเยอะ หนูสนิทกับคนยาก เจอตามงานได้ ยิ้มแฮปปี้ได้ แต่ถ้าจะให้ไปสนิทกับคนที่เจออาทิตย์ละวัน ซึ่งไม่ได้มีการคุยนอกเหนือการทำงาน บอกเลยไม่ใช่คนแบบนั้น จะไม่พูดว่า ว้าย..เป็นไงบ้างคิดถึงจังเลยโดยที่เราไม่รู้จัก เราต้องใช้เวลาในการมีสัมพันธ์กับคนอื่น คงยากจะเปลี่ยน ส่วนตัวไม่ชอบคนที่มาเฟกหรือพยายามสนิทด้วย"


การเป็นคนพูดตรงแบบนี้ เคยคิดไหมว่าเราเหมาะกับงานในวงการหรือเปล่า

มารี - "ทั้งเหมาะทั้งไม่เหมาะ อยู่ในวงการนี้อาจจะต้องลดความตรงลงไปหน่อย ถ้าตรงเกินไปก็เข้าตัว ถ้าพูดไม่เพราะหรือพูดไม่เข้าหูใคร แต่ถ้าอ่อนเกินไปหรือตามน้ำ ใครว่าอะไรก็รับ ก็ไม่ได้อีก เพราะดูเหมือนไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง ต้องหาจุดที่อยู่ตรงกลางเพื่อจะทำตัวให้ถูกให้เข้ากับวงการได้"


ชอบการแสดงแค่ไหน

มารี - "ชอบมากขึ้นเรื่อยๆ จริงๆ เข้ามาทำงานวันแรกไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองทำได้ เพราะไม่เคยทำอะไรอย่างนี้มาตั้งแต่เด็ก ไม่เคยฝันจะเป็นนักแสดง แรกๆ ก็พยายามทำ ไม่เหมือนเด็กบางคนที่อยากเป็นนักแสดงตั้งแต่เด็ก พอโตก็ไปเรียนแอ๊กติ้งเพราะเขาอยากเป็นนักแสดงจริงๆ มันเลยกลายเป็นอยู่ในสายเลือด"

"แต่ของหนูไม่เคยเรียน ไม่เคยอะไรเลย (หัวเราะ) พอมาทำเลยกลายเป็นฝืนธรรมชาติ ตัวหนูเป็นคนเงียบๆ พอให้เล่นเป็นคนเฮฮา มีความสุข มันเลยออกมาเพี้ยนๆ เพราะไม่ใช่คนแบบนั้น ตอนนี้ต้องปรับไปเรื่อยๆ แต่ก็โอเคแล้วค่ะ ต้องปรับชีวิตส่วนตัวให้มีพลังมากขึ้น เวลาไปเล่นในบทละครมันจะได้ดูเป็นธรรมชาติ"


วางอนาคตในวงการบันเทิงอย่างไร

มารี - "แล้วแต่สถานการณ์เลยค่ะ แล้วแต่ผู้ใหญ่จะให้โอกาส แต่ตอนนี้ชอบทำงานตรงนี้อยู่ ตอนนี้ยังทำได้ เพราะยังอยู่ในวัยที่ยังไม่ได้กำหนดชีวิตตัวเองว่าจะต้องทำอะไรต่อไป ตอนนี้เต็มที่กับงานตรงนี้ค่ะ"


อยากบอกอะไรกับแฟนๆ บ้าง

มารี - "ขอบคุณที่คอยเป็นกำลังใจให้ สัญญาว่ายังไงก็สู้ค่ะ ไม่มีใครมาทำอะไรเราง่ายๆ หรอก (ยิ้ม) เราไม่ปล่อยให้คำพูดใครมาทำร้ายจิตใจเรา ตอนนี้เข้มแข็งดีค่ะ"


ขอคนเข้าใจ
เป็นนางเอกสาวที่ค่อนข้างพูดตรง คิดอย่างไรพูดอย่างนั้น

ถามว่ากลัวกระทบกับภาพลักษณ์นางเอกไหม มารีกล่าวว่า "ไม่นะ เพราะหนูมองว่าภาพลักษณ์อะไรแบบนี้ มันไม่ใช่สิ่งที่คนจะมองไม่ดีนะ มันอาจจะมีคนกลุ่มหนึ่ง แต่หนูเชื่อว่าคนกลุ่มนี้ต้องเล็กมาก ที่มองว่ามันเป็นอะไรที่น่าขยะแขยง หรือมองว่ามันเป็นอะไรที่ผิดธรรมชาติ แต่หนูเชื่อว่าดูจากคนไทยจะมีกลุ่มที่มีความรักแบบนี้มากขึ้นด้วยซ้ำ มันบอกยาก แต่เชื่อว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ยอมรับในเรื่องแบบนี้มากกว่าประเทศอื่นเยอะๆ มาก ส่วนตัวก็รู้ว่าภาพลักษณ์เราไม่ได้เป็นคนหวานแหวว หรือเป็นนางเอกแอ๊บแบ๊วแบบนั้น"

เรียกว่าเป็นคนที่สนิทที่สุดไหม "ใช่ค่ะ รู้จักกันมานานแล้ว ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยประมาณ 2-3 ปี มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่เราจะมีคนที่สนิทมากกว่าคนอื่น"

ถูกใจตรงไหนของเขา นางเอกสาวแง้มว่า "จริงๆ ไม่ขออะไรมาก เราขออยู่กับคนที่เราอยู่ด้วยแล้วสบายใจก็พอ ขอแค่นี้"

"ส่วนตัวเราชอบคนที่แบบไม่ต้องเยอะมาก เพราะหน้าตาเราก็ไม่ค่อยซีเรียสเท่าไหร่ แค่พอดูได้ก็โอเค ส่วนเรื่องนิสัยขอคนที่ทนเราได้ เพราะเราชอบเหวี่ยงกับคนที่เราสนิทมากๆ (หัวเราะ) แต่รวมๆ ก็ขอแค่เข้าใจเราก็พอ และพร้อมจะให้อภัยเราเสมอ"

แต่ก็พร้อมพิจารณาทั้งหนุ่มและสาวหล่อใช่ไหม มารีหัวเราะก่อนกล่าวว่า "เรามั่นใจว่าเราไม่ใช่คนที่กำหนดอะไรเลยนะ เราแค่ชอบคน ที่เข้าใจหรือทำให้เราสบายใจได้ก็โอเคแล้ว ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม เราก็โอเคค่ะ"


อย่างนี้หนุ่มๆ ก็มีสิทธิ์อะดิ
บทหน้าที่เจ๊ดันประกบพระเอกใหม่

ก่อนจะเล่นละคร "รักคุณเท่าฟ้า" ข่าวว่านางเอกสาว "มารี เบรินเนอร์" โดนช่อง 3 ลงโทษ ถอดจากละคร 2 เรื่องก่อนหน้านี้ที่วางตัวเอาไว้ และล่าสุดทางช่องป้อนละครเรื่องใหม่คือ "แม่เปียดื้อ" ของค่ายยูม่าให้เล่น


ซึ่งการที่นางเอกสาวได้ลงเล่นละครเรื่อง "แม่เปียดื้อ" หลายคนมองว่าจะเป็นการพิสูจน์ตัวเอง

"มารี" กล่าวว่า "ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าไม่ได้เล่นละครสองเรื่อง จริงๆ จังหวะมันซวยตรงที่ละครสองเรื่องมาทับกัน มีการพูดคุยวางแผนในการทำงาน บางอย่างไม่ตรงกันเลยทำงานด้วยกันไม่ได้ ไม่เกี่ยวกับการทำโทษของทางช่อง เป็นเรื่องความไม่เหมาะสมมากกว่า หลังจากนั้นก็ได้เล่น "รักคุณเท่าฟ้า" ซึ่งเรารู้สึกว่าไม่ใช่เรื่อง "แม่เปียดื้อ" หรอกที่จะมาเป็นบทพิสูจน์ แต่เป็นเรื่องนี้มากกว่า"


"หลังมีกระแสข่าวต่างๆ กลายเป็นว่าพอได้เล่น "รักคุณเท่าฟ้า" มันเหมือนเป็นบทพิสูจน์ว่าเรื่อง "แม่เปียดื้อ" เราจะมีที่ที่จะยืนอยู่ในวงการนี้หรือเปล่า"

เห็นว่าเล่น "แม่เปียดื้อ" ไปเรียนแอ๊กติ้งมาหนักเลย นางเอกสาวยิ้มก่อนรับ "ใช่ค่ะ เราไปเรียน เขาติวให้ทุกฉากทุกตอน ไปเรียนกับค่ายยูม่าเลยค่ะ ทางค่ายอยากให้เรียน เราก็ดีใจนะ เขาให้เราเรียนเท่าไหร่เราก็ยินดี โอเคเลย"

นอกจากเรียนแอ๊กติ้งแล้ว ยังได้เรียนบู๊เพิ่ม "เพราะในละครเรื่องนี้เรามีบทบู๊ด้วย ก็มีเรียนบู๊กับค่ายยูม่าเพิ่ม และไปเรียนซ้อมมวย โชคดีตอนเด็กมีพื้นฐานคาราเต้บ้าง เล่นบู๊ก็เรียกว่ายังไหวอยู่ (หัวเราะ) "

แม้จะเป็นนางเอกใหม่ ผ่านละครมาไม่กี่เรื่อง แต่ดูเหมือนช่องจะวางใจ ให้นางเอกสาวเป็นเจ๊ดัน ประกบพระเอกใหม่ "ไม้"วฤษฎิ์ ศิริสันธนะ จากเวทีเอ็ม ไทยแลนด์

"เรื่องนี้ต้องเล่นกับพี่ไม้-วฤษฎิ์ เขาเป็นพระเอกใหม่เลย เราก็กดดันนิดนึง แอบตื่นเต้น มันก็น่ากลัวเพราะคนเขาต้องมองว่าเราเป็นคนดำเนินเรื่องและต้องเป็นคนช่วยดึงเขามาด้วย ก็แอบหวั่นๆ ว่าออกมาจะแป้กไหม แต่โดยรวมแล้วพี่เขาตั้งใจทำงานดี พี่เขาเก่ง เราไม่มีหน้าที่อะไรมาก ก็ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เพราะเรื่องนี้เราซ้อมแอ๊กติ้งค่อนข้างเยอะ"

"ซึ่งการได้มาร่วมงานกับพี่ไม้เป็นครั้งแรกโอเคเลย เพราะพี่เขาเป็นคนน่ารัก ก็ได้แต่หวังว่าคงดังแน่นอนสำหรับผู้ชายคนนี้ (หัวเราะ)"

สุดท้ายนางเอกสาวเผยถึงความคาดหวังกับละครเรื่อง "แม่เปียดื้อ" ว่า "เราก็มั่นใจว่าเราทำดีที่สุดแล้ว นักแสดงคนอื่นๆ ก็เต็มที่ ถึงเรตติ้งหรือกระแสจะออกมายังไง เราก็รู้สึกพอใจกับทุกคนที่เราได้ร่วมงานด้วยในตอนนี้ค่ะ"

ขอแค่มีความสุขในการทำงาน เรื่องอื่นถือเป็นเพียงสิ่งเร้าภายนอก


ชื่อเล่น : มารี
ชื่อ/นามสกุล : มารี เบรินเนอร์ (Marie Broenner)
วัน/เดือน/ปีเกิด : 2 พ.ค. 2535
พี่น้อง : มีพี่ชาย 1 คนชื่อ สิมน เบรินเนอร์
การศึกษา : Post Oak School Houston, Texas / Overseas School of Colombo, Sri Lanka / เกรด 5-11 ร.ร.ร่วมฤดี อินเตอร์เนเชั่นแนล สคูล / ม.กรุงเทพ อินเตอร์ คณะนิเทศศาสตร์