Inside Dara
นาย-ณภัทร ปัดเป็นมือที่สาม ทำ ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก เลิก ท็อป-จรณ

วันที่ 28 พ.ย. ที่ ชั้น 1 หอศิลปกรุงเทพฯ “นาย ณภัทร เสียงสมบุญ” พระเอกหนุ่ม จัดงานบุญเปิดนิทรรศการ “ปฎิทิน นาย ณภัทร 2019” เพื่อการศึกษาของเด็กๆ เเละโรงเรียนที่ขาดเเคลน ซึ่งหลังจบงานได้ให้สัมภาษณ์ถึงการทำปฎิทินเพื่อการกุศลครั้งนี้ พร้อมแจงข่าวลือใช่มือที่สาม ทำอดีตคู่รัก ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก เลิก ท็อป-จรณ จริงหรือไม่? รวมถึงอัปเดตคดีปมแอบอ้างภาพเพื่อโฆษณา

ถามถึงการทำปฎิทินครั้งนี้?

“จุดประสงค์การทำปฎิทินจำหน่ายครั้งนี้ รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมด ก็จะมอบเป็นทุนการศึกษาให้กับ โรงเรียนทั้งหมด 6 โรงเรียน ทั่วประเทศไทย วันนี้จัดงานนิทรรศการ “ปฎิทิน นาย ณภัทร 2019″ ใครที่อยากร่วมบริจาค มาได้ที่งานนิทรรศการ ปฎิทิน นาย ณภัทร ที่ หอศิลป์กรุงเทพ ตรงข้ามมาบุญครองตั้งแต่ วันนี้ ถึง วันที่ 2 ธ.ค. 61 บางวันผมก็จะเข้ามาขายเองด้วย ให้รอติดตามว่าจะมาวันไหนครับ ซึ่งมีจำนวนจำกัด ทั้งหมด 3,500 ชุด ทั้งแบบตั้งโต๊ะและแขวน”

จุดเริ่มต้นที่ทำ?

“ตอนเด็กผมได้รับการสนับสนุนในเรื่องการเรียน ทุนการศึกษา หลายๆ อย่าง รวมทั้งกีฬาด้วย จากผู้ใหญ่หลายๆ คน พอมาถึงวันนี้ ปีที่ผ่านมาผมได้โอกาสดีๆ จากผู้ใหญ่หลายท่าน เลยอยากส่งต่อ สิ่งที่ตัวเองได้เรียน มาสร้างประโยชน์ให้กับคนอื่นบ้างครับ ปฎิทินของผมก็นำงานวิทยานิพนธ์ที่ทำมา1ปี เกี่ยวกับเรื่อง กฎไตรลักษณ์ มาต่อยอดจนเป็นผลงานชิ้นนี้ ลงมือทำเองทุกขั้นตอนเลยครับตั้งแต่ดีไซน์จนถึงคอนเทนต์ทุกอย่าง โชคดีมีพี่ช่างภาพคอยให้คำปรึกษาตลอดเวลา ใช้ระยะเวลาทำมาทั้งหมด 8 เดือน จนถึงวันนี้ จนได้จัดนิทรรศการ ผมเก็บทุกรายละเอียด และใส่ใจงานชิ้นนี้มากๆ ครับ”

คนตื่นเต้นกับแผงอกของน้องนายด้วย?

“ครับ (ยิ้ม) ก็ในปีนี้ ผมก็ตั้งใจเปลี่ยนรูปร่างตัวเอง เพื่อบทบาทในการแสดงด้วย ในภาพยนตร์ด้วย ต้องดูโตขึ้น เป็นนักกีฬาขึ้น เป็นจังหวะเดียวกับที่ทำปฎิทินด้วย เลยอยากให้มันตรงกับคอนเทนต์ของผม ว่าสิ่งที่ดีต้องใช้เวลา เหมือนกับการที่เราฝึกฝนพยายามมีวินัยกับการบิ้วร่างกาย เพราะฉะนั้นการถอดเสื้อของผมก็ไม่ใช่อยู่ดีๆ ก็ถอดแต่มันตรงกับคอนเทนต์ ที่ผมต้องการสื่อสารจริงๆ”

คุณแม่ช่วยเลือกรูปห้ามต่ำกว่านี้ไหม?

“มีผู้จัดการคอยเซ็นเซอร์อยู่ครับ ซึ่งก็คือคุณแม่ผมเอง จริงๆ ผมก็บอกแม่ว่าโชว์ทีก็โชว์ให้หมดเลย (หัวเราะ) แต่แม่ก็บอกว่า เดี๋ยวเก็บไว้ก่อนลูก แต่ในภาพยนตร์เฟรนด์โซน วันที่ 14 ก.พ.ทุกคนน่าจะได้เห็นกัน เปลี่ยนรูปร่างเพื่อให้เข้ากับบทบาทการแสดงในภาพยนตร์”

บิ้วร่างกาย ใช้เวลานานแค่ไหน?

“ก็ไม่ถึงกับเป็นกล้ามอะไรหรอกครับ เวลาของเราค่อนข้างจำกัด แต่ก็เปลี่ยนตารางชีวิตทุกเช้าต้องไปออกกำลังกายก่อนไปที่อื่น”

ถามถึงข่าวลือเราเป็นมือที่สามกับใบเฟิร์น?

“ผมเล่นหนังกับละครมา 3 เรื่อง ผมโดนเรื่องนี้หมดเลย ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่นางเอก มีเหตุการณ์เลิกกับคู่ตัวเองกลางเรื่อง แล้วทุกคนก็โยงมาที่ผมหมดเลย แต่ผมก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร เพราะผมกับพี่เฟิร์นก็เป็นเพื่อนกัน ที่เราถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง เฟรนด์โซน มีคิวไปถ่ายต่างประเทศเยอะเลยครับ”

เราสนิทสนมกับใบเฟิร์นระดับหนึ่ง?

“เพิ่งมารู้จักเขาในกอง ที่เหลือก็ติดตามผลงานเขานี่แหละ”

คุยกันถึงเรื่องข่าวนี้ไหม?

“ก็มีพูดบ้าง แต่ก็แซวกันเป็นเรื่องตลกมากกว่า ขำๆ กันมากกว่า ไม่ได้เป็นความจริงเลยครับ พออยู่ในกอง เขาเป็นมืออาชีพมาก เป็นนักแสดงที่น่ารัก แล้วก็เป็นเพื่อนที่ดีมากเลยครับ มีอะไรก็คอยปรึกษาและให้กำลังใจกันทุกเรื่อง”

ได้ถามถึงเรื่องความรักของเขาไหม?

“ผมทราบดีว่าเขาเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น หมายถึงว่าเขากำลังเจออะไรอยู่ แต่ผมไม่ได้ไปล้ำความเป็นส่วนตัวของเขา เราเป็นเพื่อนร่วมงานกัน สิ่งที่ผมทำได้ คือให้ความเป็นส่วนตัวกัน เคารพเขา คอยให้กำลังใจเขา”

ต้องเว้นระยะห่างมากขึ้นไหม?

“ไม่นะครับ ผมก็ทำตามปกติ เราเจอกันเฉพาะเรื่องงานอย่างเดียว ภาพยนตร์เข้าวันที่ 14 ก.พ. ก็ต้องมีการเจอกันอีก”

เขามีปัญหาเราได้เป็นที่ปรึกษาไหม?

“ไม่ได้เลยครับ ต้องยอมรับในความเป็นมืออาชีพของเขาเลย เขามาทำงานตั้งแต่เช้า เราถ่ายกันข้ามคืนมาก ตี 5 แล้วเขาเป็นตัวละครจริงๆ เก่งมากๆ”

เห็นว่าเขาก็มาขอโทษแม่หมูด้วย?

“วันนั้นถ่ายโปสเตอร์ภาพยนตร์กันครับ แล้วเขาเจอคุณแม่ผม ก็เข้ามาขอโทษ คุณแม่ก็ขำกร๊ากเลยครับ คุณแม่เข้าใจ”

โอกาสพัฒนาจะมีไหม?

“ไม่นะครับ ก็คงเป็นเรื่องอนาคตครับ ไม่มีใครตอบได้”

แม่หมูก็ค่อนข้างปลื้มใบเฟิร์น?

“เหรอครับ แม่พูดเหรอครับ จริงเหรอ เขาเป็นคนน่ารัก ใครที่เคยร่วมงานกับเขา หรือเจอเขา จะสัมผัสได้ว่าเขาเป็นมืออาชีพ น่ารักและอัธยาศัยดีจริงๆ”

คุณแม่ว่ายังไงบ้าง เราถูกโยงเป็นมือที่สาม?

“ไม่ได้ว่าอะไรเลยครับก็ขำ ผมก็พูดกับแม่ กับใบเฟิร์นเล่นๆ ไม่มีเครียด ส่วนตัวผมความตั้งใจอยู่ที่งานและปฎิทินชุดนี้ครับ”

ถามถึงเรื่องคดีความไปถึงไหนแล้ว?

“ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของศาลเรียบร้อยแล้วครับ อยู่ในขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม ผมก็ตอบอะไรมากไม่ได้ ส่วนตัวก็ยังใช้ชีวิตปกติ ยึดความถูกต้องเป็นหลัก ตั้งแต่ผมเล็กๆ และคุณแม่ของผมด้วย ในการดำรงอาชีพแล้วดำรงชีวิต ถามว่ากังวลใจอะไรไหม ก็ไม่มีนะครับ ตั้งใจทำงานทุกอย่าง และทำทุกอย่างให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น”

คู่กรณีติดต่อมาบ้างไหม?

“ไม่ทราบเลยครับ เป็นเรื่องของทนาย ผมทำงานของผมอย่างเดียวเลย ในเรื่องคิวงาน สัญญา ผมไม่เคยรู้เรื่องตรงนี้”