Inside Dara
"อเล็กซ์"เปรียบวงการคือชีวต ยืนหยัดมายา14ปีใช้ความนิ่งสยบ

อะไรๆ ก็ดูจะแฮปปี้ สำหรับนักแสดงหนุ่ม "อเล็กซ์ เรนเดลล์" ทั้งเรื่องเรียน งาน และความรัก ที่เข้าล็อกลงตัว

ล่าสุดเรียนจบคณะนิเทศศาสตร์ ภาคอินเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยจะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรปลายเดือนนี้ ส่วนเรื่องงานแสดงก็มีเข้ามือถึง 2 เรื่อง "หงส์สะบัดลาย" กับ "แรงปรารถนา"


เรียนจบแล้วเป็นอย่างไรบ้าง?

อเล็กซ์ - "โล่งมากเลยครับ รู้สึกว่าเราหมดหน้าที่ใหญ่ๆ ไปอย่างหนึ่งแล้ว ตั้งแต่จำความได้ ผมเรียนมาตลอดเลย ไม่เคยหยุดเรียน พอไม่ได้เรียนปุ๊บ มันเลยยังตั้งตัวไม่ค่อยทันว่าจบจริงๆ แล้วเหรอเนี่ย ตอนได้ชุดครุยมาใหม่ๆ มองในกระจก มันมาถึงเร็วกว่าที่เราคิดไว้เยอะ" "หลังเรียนจบก็มาลุยงานละครได้เต็มที่ มีเวลาให้ตัวเอง ครอบครัว และเพื่อนๆ มากขึ้น ความรู้สึกอย่างแรกคือ รู้สึกว่าตัวเองโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ตัดสินใจทุกอย่างเอง ไม่มีใครมาตัดสินใจให้ ทุกอย่างเป็นหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบด้วยตัวเอง มีทั้งดีและไม่ดี บางทีผมต้องการให้คนมาจี้ ไม่งั้นจะเฉื่อย"


เรียนกี่ปีจบ?

อเล็กซ์ - "4 ปีครับ (ยิ้มภูมิใจ) แต่ก็เกือบ 5 ปีแล้ว ตอนที่เล่น "รักปาฏิหาริย์" เพราะก่อนถ่ายเรื่องนี้ผู้ใหญ่ก็ถามว่าจะเอาอย่างไร เพราะคิวชนกับเรียน ผมก็บอกเดี๋ยวไปคุยกับออฟฟิศเพื่อเลื่อน เพื่อจะได้เล่นละคร แต่พอขึ้นปี 4 ปุ๊บมันก็มีปัญหา เพราะที่เราเลื่อนๆ ไป มันเริ่มรวน แต่ดีที่พี่ที่คณะยังช่วย เรายังไปเก็บวิชาได้ทัน ส่วนเรื่องเรียนต่อยังครับ อยากเอ็นจอย ทำงาน ว่างๆ ก็ไปเที่ยว แต่ก็คิดจะเรียนต่อแต่ไม่ใช่เรียนปริญญาโท ถ้าจะเรียนอยากเรียนเบื้องหลัง ก่อนที่จะมาทำเบื้องหลังเต็มตัว"


สิ่งที่อยากทำอย่างแรกหลังจากเรียนจบคืออะไร?

อเล็กซ์ - "ผมได้ทำแล้วคือไปเที่ยวต่างประเทศ เพิ่งไปอเมริกามาซึ่งผมไม่เคยไปมาก่อน ไปกับเพื่อนที่เรียนจบมาด้วยกัน อารมณ์แบ๊กแพ็ก พอกลับมาก็แบบจน (หัวเราะ) ไปมาแล้วรู้สึกดีมาก เหมือนได้ปลดปล่อย เป็นความฝันของผมที่อยากไปอเมริกามาก ในความคิดผมมันเป็นประเทศที่ไกลมาก ค่าใช้จ่ายก็สูง ถ้าไปทีต้องไปให้คุ้มที่สุด"

"ผมรู้สึกดีใจที่อายุแค่นี้สามารถให้ของขวัญเรียนจบกับตัวเองได้ขนาดนั้น ออกค่าใช้จ่ายเองรู้สึกภูมิใจที่ได้ใช้เงินอย่างคุ้มค่าไปกับสิ่งที่ตัวเองอยากทำ ไปครั้งนี้ผมไปซานฟรานฯ ได้เห็นอะไรที่สวยงามมาก มีความสุขมาก คิดเลยว่าวันหนึ่งอยากไปเรียนไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น แล้วก็ได้ไปแอลเอไปเที่ยวฮอลลีวู้ด รู้สึกอยากเป็นส่วนหนึ่งของฮอลลีวู้ด ตอนนี้ก็อยากตั้งใจทำงานเก็บเงินเผื่อวันข้างหน้าจะมีโอกาสบ้าง"


คิดจะผันตัวไปทำงานเบื้องหลังเลยไหม?

อเล็กซ์ - "หลังได้ลองกำกับฯหนังดังวันหยุดไปแล้วเรื่องหนึ่ง มันคือเรื่องเดียวจบ ถือเป็นโอกาสเป็นความโชคดี ถ้าจะทำครั้งต่อไปต้องให้เวลากับมันมากกว่านี้ แต่สุดท้ายผมก็ให้เบื้องหน้าเป็นหลักอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง ยังไงผมก็ไม่ทิ้งการแสดง วันไหนถ้าพร้อมก็อยากทำควบคู่กันไปทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง อยากเป็นเหมือนพี่อ๊อฟ (พงษ์พัฒน์) พี่ชาย (ชาตโยดม) นี่คือสิ่งที่ผมอยากได้และอยากเป็นในอนาคต"


งานแสดงตอนนี้มีอะไรบ้าง?

อเล็กซ์ - "มีละคร 2 เรื่อง "หงส์สะบัดลาย" กับ "แรงปรารถนา" และกำลังจะมีอีกเรื่องที่จะเปิด ผมยังไม่รู้เลยว่าจะทำยังไง ไม่เคยรับละครทีละเยอะๆ ขนาดนี้มาก่อน ต้องบอกว่าช่วงนี้งานเยอะจริงๆ อาจจะด้วยจังหวะพอดีกับที่เรียนจบ แต่หลายอย่างก็ฟลุกมาก ผมอาจจะเข้าวงการมานาน แต่อย่างที่เห็นว่ามีงานเรื่อยๆ ไม่ตูมตาม มีคนรู้จักบ้าง ไม่รู้จักบ้าง"

"ตั้งแต่ละคร "รักปาฏิหาริย์" ออกมา บอกเลยว่าชีวิตในวงการเปลี่ยนไปเยอะมาก ทุกอย่างดีขึ้นเรื่อยๆ เชื่อไหมก่อนหน้านี้ผมยังคิดเลยว่าตัวเองจะไปต่อได้ไหมในวงการบันเทิง จะเอายังไงต่อดี แต่พอเล่น "รักปาฏิหาริย์" ผมมีแฟนคลับ มีสื่อให้ความสนใจ มีงานโชว์ตัว ผมก็ตกใจตัวเองเหมือนกันว่าแค่ละครเรื่องเดียวทำไมทำให้ชีวิตเปลี่ยนขนาดนี้ ส่วนหนึ่งคงมาจากตัวละครในเรื่อง รวมถึงองค์ประกอบในเรื่องมันช่วยกัน จริงๆ นักแสดงเก่งๆ มีเยอะ แต่ยังถูกเอาออกมาใช้ไม่ถูกที่ ต้องรอโอกาสว่าวันหนึ่งจะมีคนมาเอาเขาไปใช้ถูกที่หรือเปล่า"


ตอนนี้เรียนจบแล้ว งานลงตัวแล้ว ครอบครัวยังห่วงอะไรอีกไหม?

อเล็กซ์ - "ตั้งแต่เรียนจบคุณแม่ปล่อยมาก แต่ไม่ได้ปล่อยแบบไม่สนใจนะ จริงๆ ผมตัดสินใจอะไรเองมาสักพักหนึ่งแล้ว แต่พอยิ่งเรียนจบเหมือนเรายิ่งมีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้ แล้วตอนนี้ผมกลายเป็นคนติดบ้านโดยไม่รู้ตัว รู้สึกเบื่อที่จะไปเที่ยว เบื่อบรรยากาศในเมือง อยากอยู่แต่บ้านสบายๆ อยากกินข้าวที่บ้าน ไม่อยากไปเสียตังค์ข้างนอก ตอนนี้แม่แฮปปี้มากเห็นลูกอยู่ติดบ้าน"


มองอาชีพนักแสดงเป็นความมั่นคงของชีวิตเลยหรือเปล่า?

อเล็กซ์ - "ไม่ถึงขนาดนั้น จริงๆ งานแสดงมันมีอายุของมัน ไม่แน่วันหนึ่งผมอาจจะไปทำอะไรไม่ดีแล้วอนาคตจบเลยก็ได้ แต่มันมีหลายหนทางที่เราจะหาทางไปต่อได้ ผมเชื่อว่าตัวเองทำเบื้องหลังได้ อาจจะไม่ได้กำกับฯเต็มที่แต่ก็สามารถเป็นผู้ช่วยได้ ผมมีแผนสำรองในชีวิตไว้แล้ว รู้ว่าวันหนึ่งถ้ามันเกิดอะไรขึ้นผมจะทำอะไรต่อไป แต่ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากใช้แผนสำรองเท่าไร (หัวเราะ) ถ้าเมื่อไหร่ที่เบื้องหน้าไม่เอาผมแล้ว อย่างน้อยก็ยังมีพื้นฐานการทำงานเบื้องหลังอยู่บ้าง แล้วตอนนี้ก็มีหลายคนที่ต้องการความคิดของคนรุ่นใหม่ ซึ่งผมคิดว่าตัวเองน่าจะมอบอะไรให้กับคนที่เขาต้องการได้"


ที่ผ่านมาแทบไม่เคยได้ยินข่าวเสียหายของอเล็กซ์เลย?

อเล็กซ์ - "จริงๆ ก็มีข่าวไม่ดีบ้างนะ แต่ไม่เคยถึงขั้นโดนหนักๆ อาจจะมีข่าวทำนองพาสาวขึ้นคอนโดฯ แต่สุดท้ายก็คือข่าวที่ไม่จริง ผมมองว่าตัวเองโชคดีที่ไม่โดนข่าวแรงๆ พี่ๆ สื่อทุกคนดีกับผมทั้งที่ผมไม่ได้โด่งดังอะไร มีคนเคยบอกว่าผมเป็นคนที่ไม่มีปัญหา คุยง่าย อะไรก็ได้ ผมก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นแบบนั้น บางทีอาจจะทำงานมาเหนื่อย แต่ก็สามารถให้ความร่วมมือกับทุกคนได้ เลยทำให้ทำงานร่วมกันมาได้ตั้งแต่เด็ก"

นักแสดงที่ทำงานมาตั้งแต่เด็กจะค่อนข้างมีความกร้านในตัวเองเยอะ แต่อเล็กซ์ดูไม่เป็นแบบนั้น?

อเล็กซ์ - "จริงๆ ผมก็มีดื้อ แต่ไม่มีใครเห็นเท่านั้นเอง บางทีคิดว่าตัวเองใหญ่กว่าที่เราเป็น แต่ก็มีคนที่กล้าพูดกับเราไง อย่างครอบครัว พี่แหม่ม (คนดูแล) เพื่อนๆ คนเหล่านี้จะคอยเบรกไม่ให้เราหลุดไปไกล แล้วผมก็มีอุดมการณ์อย่างหนึ่งในชีวิตว่าไม่อยากเป็นข่าวเพื่อให้ตัวเองมีงาน อยากให้คนสนใจที่ผลงานมากกว่า อยากให้ประชาชนรู้สึกว่าผมเล่นละครเรื่องไหนก็อยากจะดูเรื่องนั้น"

"บางคนเข้ามาอยู่ตรงนี้จุดประสงค์ในการทำงานไม่เหมือนผม เขาอยากได้เงิน อยากกอบโกย ซึ่งเราก็ว่าเขาไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้โชคดีที่มีครอบครัวที่สมบูรณ์ แต่สำหรับผมคิดว่าการที่บางครั้งเราอยู่นิ่งๆ ใจเย็นๆ มันอาจจะทำให้ระยะเวลาของการอยู่ในวงการนี้มันยาวนานกว่าก็ได้"

เปรียบวงการบันเทิงเป็นอะไรในชีวิต?

อเล็กซ์ - "จนถึงวันนี้ผมอยู่วงการมา 14 ปี เรียกว่าเกินครึ่งชีวิตของผม วงการคือชีวิตของผม เป็นทุกอย่างที่ทำให้ผมรู้สึกว่าโชคดีที่ได้เข้ามาอยู่ตรงนี้ โอเคว่าอาจจะมีเสียอะไรไปบ้าง แต่มันก็คุ้มกับประสบการณ์ที่ผมได้รับมาตั้งแต่เด็ก ทุกวันนี้ผมมีงานที่ดี เชื่อไหมว่าก่อนเรียนจบผมเห็นเพื่อนๆ เขียนเรซูเม่เพื่อสมัครงานกัน ต้องมานั่งลุ้นว่าจบแล้วจะมีงานทำไหม ซึ่งผมไม่ต้องทำอะไรแบบนั้น เพราะมีงานในวงการบันเทิงรองรับอยู่"

"ผมเคยแอบคิดเหมือนกันว่าชาติที่แล้วทำบุญอะไรไว้ ชาตินี้ถึง เกิดมาโชคดี"


ชอบสาวมีคาแร็กเตอร์-คุย"เต้ย"ไร้คำจำกัดความ

พูดถึงเรื่องรักกับหนุ่ม "อเล็กซ์ เรนเดลล์" ในนาทีนี้ ถ้าไม่เอ่ยชื่อสาวแบ๊ว "เต้ย"จรินทร์พร จุนเกียรติ ไม่ได้แล้ว โดย อเล็กซ์เผยว่า ความจริงเราคุยกันมาสักพักแล้วก่อนจะมีข่าว

สำหรับจุดเริ่มต้นที่ได้คุยและเจอกัน นักแสดงหนุ่มกล่าวว่า "ผมรู้จักเขาตั้งแต่เขาเข้ามาใหม่ๆ เรารุ่นเดียวกันจะมีงานเจอกัน ผมรู้จักเขาเพราะเขาสนิทกับแอริณ (ยุกตะทัต) และผมก็สนิทกับแอริณ เราไม่ได้เจอกันนานมาก มาช่วงหลังเจอกันงานวันเกิดพี่ในวงการ ก็ได้พูดคุยกันเป็นไปโดยไม่รู้ตัว ไม่ได้คิดจีบ หรือไม่ได้คิดจะเข้าหา สิ่งพวกนี้เวลาจะมามันจะมาของมันเอง ไม่ต้องไปแสวงหา ทุกอย่างมันคลิกแล้วเรารู้สึกดีโดยไม่รู้ตัว"

แสดงว่าคุยถูกคอ "ครับ คือผมเคยมีแฟนเมื่อหลายปีที่แล้ว แล้วอกหัก ไม่ได้คุยกับใครมาปีสองปี ครั้งนั้นสอนให้เรารู้ ที่เสียใจเพราะทุกอย่างเกิดขึ้นเร็ว รักกันเร็ว รักกันมาก อยู่ดีๆ เขาก็ไป พอมาครั้งนี้อยากให้มันไปเรื่อยๆ ช้าๆ"

"เราไม่เคยคุยกันว่าเราเป็นแฟนกันหรือเปล่า เราถึงไหนกันแล้ว เราไม่มีคำตอบให้เวลามีคนมาถามว่าเป็นแฟนเต้ยเหรอ เพราะไม่รู้จะตอบอย่างไร"

อย่างนี้ถ้าพูดว่าเป็นคนพิเศษได้ไหม "ไม่รู้ ผมรู้สึกว่าคำว่าคนพิเศษ คนดูใจ หรืออะไร มันไม่ใช่คำพูดที่ผมใช้ เวลาผมฟังคนอื่นพูด ผมก็ไม่รู้จะเข้าใจว่าตกลงคือเขาเป็นแฟนกัน แล้วไม่กล้าใช้คำว่าแฟนหรือเปล่า แล้วคำว่าแฟนมันไม่ดีตรงไหน ผมไม่ค่อยเข้าใจ"

"แต่ตอนนี้เข้าใจว่าเขาเป็นคนที่เราคุยมากที่สุด ไม่ได้ใช้คำอื่น แต่จะเป็นแฟนหรือเปล่าคืออาจจะคุยกันในลักษณะนั้น เพียงแต่ไม่เคยคุยว่าเราเป็นแฟนกันหรือเปล่า เลยไม่รู้จะยังไงกันแน่ จริงๆ ไม่อยากพูดอะไรมาก ไม่อยากให้คนโฟกัสตรงนี้มาก"


กำลังจะบอกว่าไม่อยากให้มีข่าวความรักนำไปสู่กระแสของการมีงาน "ใช่

ยิ่งข่าวออกมามีคนอยากให้ไปออกงานคู่แล้วอยากให้พูดถึงนิดหน่อย"

"คือก่อนหน้านี้ที่ผมเป็นข่าวกับมิ้นต์ (ชาลิดา) ทุกคนอยากให้ผมยอมรับให้ได้ว่าคุยกับมิ้นต์ทั้งที่ไม่ได้คุย แต่พอมาเรื่องเต้ย อันนี้ยอมรับว่าคุย ต่อไปคือเขาต้องการรายละเอียดในการคุยกันมากขึ้น ผมว่ามันน่าจะเป็นอะไรที่คนละครึ่งทาง ผมไม่ได้ปิดว่าคุยกัน แต่ผมคงไม่มานั่งตอบว่าตอนนี้เจอกันบ่อยไหม ทะเลาะกันหรือเปล่า คือคุยน่ะคุย แต่อะไรที่มากกว่านั้นมันเป็นเรื่องของคนสองคน"

แล้ว "เต้ย" นี่ใช่สเป๊กไหม อเล็กซ์ปฏิเสธ "ไม่เลย ผมจะชอบแนวเซอร์ ชอบคนมีคาแร็กเตอร์ ซึ่งเต้ยจะออกแนวน่ารักแต่ก็จะเป็นตัวเอง มีคาแร็กเตอร์ของเขา คือผมไม่ได้ชอบคนที่สวยเริ่ด อย่างเต้ยนี่จะน่ารักแบบไม่เฟก ไม่ได้พยายามน่ารัก"

เพื่อนๆ มีแซวไหม "จริงๆ ยังไม่ได้เจอเลยวันที่ไปรับปริญญานั่นคือเป็นการเจอเพื่อนจริงๆ ของผม คือคนรู้เยอะ แต่ไม่มีคนเคยเจอ ไม่ได้ไปไหนด้วยกันตลอด วันไหนว่างก็เจอ คือเราทั้งคู่อยู่วงการมานาน เข้าใจว่าต่างคนต่างมีหน้าที่"

คาดหวังกับความสัมพันธ์ครั้งนี้ซึ่งไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงในอนาคตอย่างไรบ้าง อเล็กซ์ตอบ "ผมว่าเราไปเรื่อยๆ ดีกว่า ค่อยๆ ไปตามขั้น แต่สิ่งสำคัญที่สุด การที่จะให้มันเป็นไปได้ด้วยดี เราต้องรักษามันไว้ ไม่เอามันมาใช้ในทางที่ผิด เราคงไม่เอาไปทำเพื่อธุรกิจหรือเรื่องของงาน"


งานนี้เรียกว่าชัดเจน

ชื่อเล่น : อเล็กซ์
ชื่อนามสกุลจริง : อเล็กซานเดอร์ ไซม่อน เรนเดลล์
ชื่อในวงการ : อเล็กซ์ เรนเดลล์
วัน/เดือน/ปีเกิด : 9 มกราคม พ.ศ. 2533
บิดา/มารดา : นายเบนจามิน และนางดวงสมร เรนเดลล์
พี่น้อง : มีพี่ชาย 1 คน และพี่สาว 1 คน ชื่อไซม่อน และโบนิต้า
การศึกษา : มัธยมศึกษาที่โรงเรียนบางกอกพัฒนา อุดมศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย