Inside Dara
“เกรท-วรินทร” อยากเจอรักแท้.. แต่ไม่อยากตามหา!!

วันนี้โชคดีได้มีโอกาส มานั่งสัมภาษณ์พระเอกเบอร์หนึ่งของช่อง 3 “เกรท-วรินทร ปัญหกาญจน์” หนุ่มรูปหล่อมาดเข้ม ผู้มีอนาคตไกลอีกคน ตอนนี้อายุเพิ่งจะ 27 เท่านั้น สิ่งแรกที่เราเห็นแล้ว รู้สึกประทับใจขึ้นมาทันที คือรอยยิ้มของเขา เพราะมันทำให้คนที่นั่งรอ...รีบยิ้มตอบโดยเร็ว และคงปฏิเสธไม่ได้ว่า “เกรท” เป็นพระเอกขวัญใจของบรรดาแฟนละครช่อง 3 ทั่วประเทศ เขาเล่าให้ฟังว่า จุดเริ่มต้นในชีวิตการเป็นดารา-นักแสดง มันช่างเป็นเรื่องง่าย ๆ เริ่มต้นที่สนามฟุตบอล

เขาเล่าให้ฟัง...ถึงที่มาของการเป็นพระเอก “คือตอนนั้นผมเรียนอยู่ประมาณปี 4 ที่มหาวิทยาลัยรังสิต คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาการออกแบบ ตกเย็นก็ไปเตะฟุตบอลกับเพื่อน ๆ แล้วก็มีรุ่นพี่มาชวนไปถ่ายรูปให้กับโมเดลลิ่ง หลังจากนั้นผมก็ได้งานเดินแบบ ได้เล่นมิวสิกวิดีโอ เล่นโฆษณา แล้วก็ประกวดอีกหลายเวที จนได้เข้ามาที่ช่อง 3 พร้อมกับน้องญาญ่า ละครเรื่องแรกที่ผมได้เล่น คือเรื่อง รักเธอยอดรัก ตอนนั้นเล่นเป็นคู่ 2 พระเอกคือ พี่ปอ-ทฤษฎี หลังจากนั้นก็ได้เล่นเป็นพระเอกคือเรื่อง สายสืบเดลิเวอร์รี่ คู่กับ น้องหยาดทิพย์ ราชปาล หลังจากนั้นก็เล่นละครมาเรื่อย ๆ ครับ แต่เดี๋ยวนี้ผมได้เป็นพระเอกแล้วครับ” (เค้ารู้กันทั้งบางแล้วจ้า)

เห็นว่ามีคิวทำงานแน่นทั้ง 7 วัน “เกรท” ทำอะไรบ้าง “ส่วนใหญ่ก็จะเป็นคิวงานละครนะครับ ตอนนี้มีถ่ายทำเรื่อง สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ซึ่งผมจะเล่นทั้ง 4 ภาคเลย ส่วนอีกเรื่องคือ เดอะซิกเซ้นท์ ภาค2 ตอนนี้ทุกเรื่องเร่งเครื่องถ่ายทำหมด ผมก็เลยไม่ค่อยมีเวลาทำอย่างอื่นเท่าไหร่ ถ้าว่างจริง ๆ จะนัดเพื่อน ๆ ไปเตะฟุตบอลกันบ้าง เข้าฟิตเนสบ้าง จะเน้นเรื่องดูแลสุขภาพมากกว่า ผมชอบเล่นกีฬาฟุตบอลมาก เล่นมาตั้งแต่อยู่ ป. 3 เมื่อก่อนฝันว่าโตขึ้นจะเป็นนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติให้ได้ เพราะมันโคตรเท่เลย ถึงขนาดซ้อมท่าเวลายิงเข้าประตูเลยว่า จะทำท่าไหนดี สาว ๆ จะได้กรี๊ด 555”

ล่าสุดนี้ “เกรท” ได้รับเลือกให้เป็นพรีเซ็นเตอร์ “เอดส์โลก” ประจำปี 2555 รู้สึกยังไงบ้าง “ผมภูมิใจมากที่ทางกระทรวงสาธารณสุข โดยกองควบคุมโรค พิจารณาให้ผมได้รับตำแหน่งนี้ ซึ่งผมดีใจที่ได้เป็นส่วนเล็ก ๆ ที่สามารถช่วยสังคมไทยได้บ้าง โดยส่วนตัวผมค่อนข้างซีเรียส กับเรื่องการมีเพศสัม พันธ์ก่อนวัยอันควรนะครับ เพราะตัวผมเองก็มีน้องสาวเหมือนกัน จึงเข้าใจหัวอกผู้ใหญ่ที่มีวัยรุ่นอยู่ในครอบครัว ผมอยากจะฝากถึงน้อง ๆ ทุกคนนะครับว่า วัยของน้องกำลังสดใส ขาวสะอาด จงใช้ชีวิตวัยรุ่นให้มีคุณค่า จะทำอะไรที่ไม่ดี ให้คิดถึงคุณพ่อคุณแม่เยอะ ๆ ส่วนถ้าใครมีเพื่อนหรือญาติ ๆ ที่เป็นผู้ป่วยติดเชื้อ ก็ขอให้เห็นใจ เข้าใจ และเป็นกำลังให้เขา เพราะจริง ๆ แล้วเราทุกคนสามารถอยู่ร่วมกับเขาได้ แค่รู้จักวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องเท่านั้นเองนะครับ”

ขอถามเรื่องน้องชาย “กู๊ด-ชยพล” เจ้าของตำแหน่งแชมป์เคพีเอ็นประจำปีนี้ ในฐานะพี่ชายเป็นยังไงบ้าง “ผมกับครอบครัวดีใจกับน้องมาก ที่กู๊ดทำฝันของตัวเองเป็นจริง เพราะน้องเคยผิดหวังมาครั้งหนึ่ง พอครั้งนี้เขาทำสำเร็จเราทุกคนในครอบครัวก็เลยดีใจมาก เมื่อก่อนตอนกู๊ดเด็ก ๆ เป็นคนเงียบ ๆ เฉย ๆ ก็เลยไม่คิดว่าน้องจะชอบเรื่องร้องรำทำเพลง พอเขาบอกว่าจะเข้าประกวดยังแปลกใจเหมือนกัน แต่ลึก ๆ ในใจผมก็สนับสนุนนะ เพราะการร้องเพลง นอกจากทำให้คนร้องมีความสุขแล้ว เสมือนว่าเรามอบความสุขให้กับคนฟัง โดยผ่านเสียงเพลง”

ลูกชายทั้ง 2 คน เข้าวงการบันเทิงแบบนี้ คุณพ่อคุณแม่ เป็นห่วงอะไรบ้างมั้ย “ผมว่าพ่อกับแม่ เป็นห่วงน้องกู๊ดมาก กว่าครับ เพราะน้องเพิ่งจะเริ่มเข้าวงการ ผมนี่แม่หมดห่วงไปนานแล้ว พ่อกับแม่ท่านทำธุรกิจส่วนตัวอยู่ที่จังหวัดเพชร บูรณ์ แต่เพราะช่วงนี้แม่ห่วงน้องมาก ก็เลยขับรถเข้ากรุงเทพฯ มาเยี่ยมผมกับน้องทุกอาทิตย์ ผมก็เป็นห่วงท่านต่อไปอีก เพราะต้องขับรถไกล ๆ แต่อีกซักพักท่านคงสบายใจขึ้น ที่แน่ ๆ พ่อกับแม่มั่นใจในตัวพวกเรา ว่าเป็นลูกที่อยู่ในระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบ และจะไม่ทำอะไรที่เป็นการเสื่อมเสียแน่นอนครับ”

มาถึงเรื่อง “ความรัก” ยังยืนยันสถานะโสดอยู่หรือเปล่า “ยืนยัน... นอนยันเลยครับ เพราะยังไม่เจอคนที่คลิกจริง ๆ เรื่องความรักผมว่าต้องอยู่ที่ความเข้าใจเป็นหลัก อย่างอื่นเป็นส่วนประกอบมากกว่า ผมตั้งใจจะไม่ตามหาเลยนะ สำหรับเรื่องความรัก ผมว่ามันไม่มีความจำเป็นต้องรีบมี ผมขอแค่คนที่เข้ากับเราได้ คุยกันแล้วมันคลิก ผมเคยเจอผู้หญิงน่ารัก ๆ มาเยอะ แต่พอคุย ๆ กันไปแล้ว มันไม่ใช่ ก็ต้องปล่อยไป ผมอยากเจอคนที่ใช่ แล้วจะได้จริงจัง ผมไม่ชอบการผิดหวัง ร้องไห้ เพราะอารมณ์แบบนั้นมันทุกข์จริง ๆ”

“ความรักเป็นสิ่งสวยงาม ผมอยากได้ความรักจากผู้หญิง ที่มีอะไรเหมือนผม หมายความว่าคุยกันรู้เรื่อง มีทัศนคติที่ตรงกัน ถึงจะไม่เหมือนเป๊ะแต่ก็คล้ายกัน จะได้คบกันนาน ๆ ผมไม่ชอบคนจุกจิกจู้จี้ มันดูไร้สาระ เพราะชีวิตคนเรามีอะไรต้องทำอีกเยอะ แล้วสิ่งที่จะทำ มันต้องใช้เวลาทุ่มเท และตั้งใจอย่างเต็มที่ ไม่เช่นนั้นสิ่งที่ทำมันก็จะไม่สำเร็จ เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ผมเคยฝันว่า ถ้าผมจะมีครอบครัว ผมอยากได้ครอบครัวที่อบอุ่นแบบพ่อแม่ของผม มีอะไรท่านก็จะปรึกษากันคุยกัน เป็นภาพที่ผมเห็นมาตั้งแต่เด็ก ๆ จนถึงตอนที่ผมโต”

นอกจากงานแสดงแล้ว “เกรท” คิดจะทำอะไรอีก “คิดไว้หลายอย่าง แต่ยังไม่อยากบอกตอนนี้ เพราะต้องใช้เวลาอีกสักพัก ช่วงนี้ก็ต้องศึกษาไปเรื่อย ๆ ก่อนครับ ผมว่าการเก็บเกี่ยวประสบการณ์นี่สำคัญ มันทำให้เราได้รู้อะไรอีกเยอะ แล้วก็รู้ทันเหตุการณ์ด้วย”

ถึงเวลานั้น...กระซิบบอกกันบ้างเน้อ พ่อรูปหล่อ (ชอบจัง!) จะรีบแจ้นไปหาเลยจ้า...