Inside Dara
บทนางเอกเรียบๆธรรมดา พลิกเล่นร้ายมีราคากว่าเยอะ!!

ดูเหมือนว่านาทีนี้นางร้ายทั้งหลายต่างพากันร้อนๆ หนาวๆ เมื่อบรรดานางเอกแถวหน้าต่างพากันอยากลองชิมลางหันมาพลิกเล่นบทร้ายดูสักครั้ง ซึ่งต่างจากเมื่อก่อนที่บรรดาเหล่านางเอกไม่กล้าที่จะรับเล่นบทร้ายสักเท่าไหร่ เพราะกลัวเรตติ้งตัวเองจะตก และทำให้คนดูติดภาพนั้น แต่ทว่าด้วยความเป็นนักแสดงต้องหาอะไรที่แปลกใหม่ให้แก่ตัวเอง มิเช่นนั้นก็จะจำเจตัวเองอยู่แต่บทเดิมๆ อาจจะทำให้คนดูเบื่อก็เป็นได้ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่นางเอกระดับแถวหน้าของเมืองไทย ทั้งนางเอกหน้าหวาน นางเอกหน้าสวย นางเอกหน้าเป๊ะ หลายต่อหลายคนลุกขึ้นมาสลัดคราบ "นางเอก" สวมวิญญาณ "นางร้าย" ได้อย่างแนบเนียน จนนางเอกบางคนสลัดภาพซะไม่เหลือคราบนางเอกอีกเลย ขึ้นชื่อว่าเป็นนักแสดงแล้วจะเล่นบทไหนไม่สำคัญ แต่สำคัญที่ว่าพอเปลี่ยนแล้วจะรุ่งหรือจะร่วง อันนี้น่าจับตามองสุดๆ

ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต

การพลิกบทบาทครั้งสำคัญของสาว ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต จากบทของเรยา วงศ์เศวต ที่ใครต่างพูดถึงจนกลายเป็นกระแสทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์ ในละครดังเรื่อง "ดอกส้มสีทอง" ที่เรื่องนี้ความร้าย ความแรงรวมอยู่ในตัวของสาวชมพู่คนเดียว จนทำให้กลายเป็นประเด็นโจษจันในสังคม ที่ทุกคนต้องพูดถึง เพราะละครเรื่องนี้ได้แฝงข้อคิดอย่างมากมาย ต้องยกความดีความชอบให้กับนักแสดง ทีมงาน ผู้กำกับ และคนเขียนบท ที่สร้างเรื่องราวแซ่บๆ ร้ายๆ ของตัวนางเอกที่ไม่เป็นนางเอก ให้กับคนดู จนเกิดคำว่า "ดูละครแล้วย้อนมองดูตัวเอง" จนเกิดเป็นกระแส "เรยาฟีเว่อร์" กันแบบสุดๆ ในช่วงเวลานั้น ซึ่งเรื่องนี้เรตติ้งกระฉูดอย่างแรง สูสีกับช่องคู่แข่ง ถึงขั้นที่ว่าเลิกงานแล้วต้องรีบกลับบ้านเพื่อไปให้ทันเรยาฉาย มิเช่นนั้นจะคุยกับเค้าไม่รู้เรื่อง

พลอย-เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์

เรียกว่าเป็นนักแสดงสาวคุณภาพเลยก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าจะรับบทไหน หลายต่อหลายคนก็ให้ความสนใจกับการแสดงของเธอ พลอยคร่ำหวอดอยู่ในวงการบันเทิงไทยมาตั้งแต่อายุ 15 ปี รับบทนางเอก บทเด่นมาเรื่อยๆ แต่กลับดังเปรี้ยงเป็นพลุแตก กับการพลิกเล่นบทร้ายครั้งแรก ในละครเรื่อง "ระบำดวงดาว" ในบทของ "หวานหวาน" นางร้ายสุดแอ๊บ เรื่องนี้สาวพลอยได้ตีบทบาทแตกกระจุย จนทำให้คนดูทั่วบ้านทั่วเมืองต่างพากันอินและคิดเลยเถิดไปว่า บทนี้สร้างขึ้นเพื่อพลอยโดยเฉพาะ แต่อย่างว่าการแสดงก็คือการแสดง ซึ่งบทนี้ทำให้พลอยกวาดรางวัลจากหลายเวทีมาแล้ว ถือว่าเป็นจุดแจ้งเกิดเต็มๆ ของเธอในวงการละคร อีกทั้งยังตามมาด้วยบทร้าย "คุณรำพึง" ในละคร "บ่วงบาป" ที่ร้ายจัดจ้านแบบสุดๆ และล่าสุดกับละครเรื่อง "สามีตีตรา" ถึงแม้เรื่องนี้จะไม่ได้รับบทร้ายเต็มตัว แต่ร้ายแบบนางเอกที่ยอมนางร้ายไม่ได้ จนต้องแรงมาแรงกลับ ก็ถึงใจคนดูชนิดว่า นางเอกไทยไม่ได้แค่ยอมพระเอกหรือตัวร้ายแค่อย่างเดียว แต่นางเอกไทยก็สามารถร้ายได้เช่นกัน

นุ่น-วรนุช ภิรมย์ภักดี

เคยรับบทร้ายสุดๆ กับบท "แสนเสน่ห์" ในเรื่อง "เปรตวัดสุทัสน์" อีกทั้งยังมาร้ายฟาดฟันกับเพื่อนสาว "อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ" ในเรื่อง "กุหลาบเหนือเมฆ" ก่อนจะหันเหเป็นนักแสดงอิสระไม่มีสังกัดใดๆ ประเดิมตำแหน่งนักแสดงอิสระกับละครเรื่องแรกทางช่อง 3 ในเรื่อง "ทองเนื้อเก้า" กับบท "ลำยอง" ซึ่งเรื่องนี้เป็นการพลิกบทอีกครั้งของสาวนุ่น สามารถสลัดคราบคุณนายมากลายเป็นสาวขี้เมาติดโรค บทแรง ร้าย เมาอาละวาดได้อย่างเหมือนจริง จนทำให้ช่วงที่ละครกำลังออนแอร์เกิดเป็นปรากฏการณ์ "ลำยองฟีเวอร์" ที่ใครๆ ก็พูดถึง กระทั่งล้อเลียนฮิตติดลมบนทั่วบ้านทั่วเมือง

เจนี่ อัศวเหม

แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเคยรับบทนางเอกในรูปแบบต่างๆ ทั้งนางเอกเจ้าน้ำตา นางเอกคุณหนู นางเอกขาลุย นางเอกขี้เหวี่ยง แต่การมารับบทเป็นฝาแฝด 2 บุคลิก ในละครเรื่อง "แรงเงา" บท "มุตา-มุนินทร์" ก็ทำให้คนพูดถึงกันอย่างมากมาย ด้วยบทละครที่มีความแซ่บทุกอณูไม่แพ้เวอร์ชั่นเดิม ความแรงและความโดดเด่นของตัวละครทุกตัวในเรื่อง เรื่องนี้เลยกลายเป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซของสาวเจนี่เลยทีเดียว เพราะเธอสามารถเล่นได้อย่างถึงใจคนดู ไม่มีแบ๊ว ไม่มีคราบของนางเอกคนเดิมหลงเหลืออยู่ เลยทำให้สาวเจนี่สามารถแจ้งเกิดกับบทร้ายได้อย่างสวยงาม พร้อมกับรางวัลเกือบทุกเวที เรียกได้ว่า ช่วงนั้นกระแสแรงเงาฟีเวอร์อย่างแรง

พิงกี้-สาวิกา ไชยเดช

หลังจากหายหน้าจากจอฟรีทีวีไปพักใหญ่ กลับมาอีกทีก็มาบุกตลาดทางช่องเคเบิลทีวีเสียแล้ว สำหรับสาวนัยน์ตาคม พิงกี้-สาวิกา กับละครบทแรงเรื่องแรก "ทองประกายแสด" ทางช่อง 8 ซึ่งเรื่องนี้กระแสแรงตั้งแต่ยังไม่ออนแอร์ เพราะเป็นการกลับมาอีกครั้งหลังจากมีข่าวค(ร)าว ที่เป็นกระแสทอล์กออฟเดอะทาวน์ บวกกับบทของเรื่องนี้แรงได้ใจเลยจริงๆ และเป็นการสลัดคราบนางเอกจากใสๆ หวานๆ มาเป็นนางเอกกึ่งนางร้าย ทำให้หลายคนลืมภาพนางเอกของเธอไป แถมสาวพิงกี้ยังได้กระโดดมารับงานกับทางค่ายเอ็กแซ็กท์ ก็ประเดิมกับบทแรงในละครเรื่อง "มารยาริษยา" กับบทบาทของ "ดีนี่" นางร้ายแอ๊บแบ๊ว ยิ่งดูยิ่งสะใจ จนหลายคนนึกว่า ถอดมาจากตัวตนจริงๆ ของเธอ ทำให้เรื่องนี้ถูกใจคนดู ติดกันจนงอมแงมเลยทีเดียว และทำให้สาวพิงกี้กลับมาแจ้งเกิดอีกครั้ง

จุ๋ย-วรัทยา นิลคูหา

สำหรับสาวคนนี้นาทีนี้ถ้าไม่พูดถึงคงไม่ได้แล้ว หลังจากที่ออกมาเป็นนักแสดงอิสระ เจ้าตัวก็เริ่มประเดิมบทบาทใหม่พลิกจากนางเอกมาเล่นร้ายเป็นครั้งแรก ทั้งร้ายด้วย ดราม่าด้วย ถือว่ายากสุดๆ ในะครเรื่อง "สามีตีตรา" ที่เพิ่งจะออนแอร์ให้ชมไปไม่กี่ตอน ก็ได้กระแสตอบรับดีเกินคาด แถมยังต้องมาปะทะฝีมือสุดพลังแบบใส่ไม่ยั้ง กับนักแสดงมากความสามารถอีกหลายคน เรียกว่าออกอากาศไปแค่ไม่กี่ตอน ก็ทำให้สาวจุ๋ยเดินตลาดไม่ได้เสียแล้ว เพราะคนดูอินจัด ดูไปด่าไป ถือว่าการพลิกบทบาทใหม่ของสาวจุ๋ย เกิดจริงๆ ซึ่งต่างจากตอนที่เธอรับบทนางเอกที่แสนดี ที่หลายคนมองว่าตอนนั้นมันดูจืดไป แต่มาตอนนี้หลายคนก็เตรียมยกตำแหน่งนางร้ายแถวหน้าให้สาวจุ๋ยกันแล้ว

จั๊กจั่น-อคัมย์สิริ สุวรรณศุข

และกับสาวคนล่าสุดที่พลิกบทเล่นร้ายลึก กับนางเอกหน้าหวาน จั๊กจั่น-อคัมย์สิริ สุวรรณศุข ละครที่ผ่านมาเธอได้รับแต่บทนางเอก บทคนดีมาโดยตลอด แต่ก่อนหน้านั้นใช่ว่าสาวจั๊กจั่นจะเล่นแต่บทนางเอก เพราะเธอได้ลองเล่นบทร้ายในเรื่อง "อาทิตย์ชิงดวง" กับทางเอ็กแซ็กท์ แต่ก็ไม่ดังเปรี้ยงมากเท่าไหร่ ล่าสุดเธอได้ตอบตกลงเล่นละครเรื่อง "สุสานคนเป็น" ละครรีเมคของค่ายกันตนาในบทของ "รสสุคนธ์" ที่ร้ายลึกแบบสุดๆ ซึ่งบทนี้ได้แจ้งเกิดให้กับ "เหมี่ยว-ชไมพร" และ "เอ๋-พรทิพย์" มาก่อนหน้าแล้ว ต้องรอดูกันว่า สาวจั๊กจั่นเธอจะกลับมาทวงบัลลังก์และได้คะแนนนิยม ในการขึ้นแท่นเป็นนักแสดงแถวหน้าได้อีกครั้งหรือไม่ ขอแอบบอกว่า เรื่องนี้เจ้าตัวทุ่มสุดๆ กับบทเลิฟซีน และฉากตบ-จูบรุนแรง แบบไม่ใช้แสตนอินเลยทีเดียว.