Inside Dara
เอาดีเซ็กซี่! เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา รู้ตัวไม่รอด

นางเอกแถวหน้า “เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา” สุดน่ารักสาวโก๊ะตาโต แขนขายาวคาแรกเตอร์ชัด ถ้าเป็นเรื่องเซ็กซี่ “เอสเธอร์” บอกเลยตรงนี้ว่าไม่ถนัด ขอแจกความสดใส! แต่เรื่องฝีมือการแสดงไม่แพ้ใคร ได้รับบทบาทท้าทายหลากหลาย แฟนละครจดจำฝีมือบทดราม่าตรึงใจ ล่าสุด “เอสเธอร์” โคจรมาพบกับพระเอกหนุ่ม “เจษ–เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์” ที่เคยร่วมงานกันเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ครั้งนี้มาจับคู่ถูกคน เคมีลงล็อกเชือดเฉือนอารมณ์กับเรื่องราวการล้างแค้นที่มีหัวใจเป็นเดิมพัน ในละครโรแมนติกดราม่า “วิมานทราย” ทางช่องวัน 31

“เอสเธอร์” เล่าว่า เป็นอีกบทที่ท้าทายและยากพอสมควร เป็นการประชันอารมณ์กันแต่ยังรักกัน รับบทเป็น “อลิศรา” ผู้หญิงเข้มแข็ง มุ่งมั่นไม่ยอมคน พระเอกมาด่าทอต่อว่าเพราะเค้าผิดหวังเสียใจ แต่เราก็คิดว่าเราไม่ผิดเราก็สู้ ความน่าดูของเรื่องนี้บทเข้มข้น สนุกมาก เป็นดราม่าชีวิตชวนติดตาม คนดูคงรู้สึกว่าทำไมชีวิตของผู้หญิงคนนี้ช่างน่าสงสารเจอปัญหาอะไรเยอะแยะเข้ามาตู้มเดียวเลย คนดูน่าจะอยากลุ้นเอาใจช่วย ออกปากเลยว่ารู้สึกโชคดีที่ได้เล่นละครกับ เจษ เพราะ “เอสเธอร์” แทบไม่ต้องปรับเปลี่ยนเรียนรู้อะไรใหม่ เวลาเข้าฉากปะทะอารมณ์จะซ้อมทำการบ้านกันมาก่อน รู้จังหวะการเล่นของกันและกัน ชมเจษแสดงดีจนแทบไม่ต้องเค้นอารมณ์ รับส่งเล่นต่อกันได้ง่าย โดยที่ไม่ต้องพยายาม

ความยากของละครเรื่องนี้ “เอสเธอร์” เล่าว่า ด้วยความเป็นละครดราม่ามากๆแล้วมันมีพัฒนาการของตัวละครด้วย เพราะเรื่องราวผ่านหลายวัยตั้งแต่วัยเด็ก วัยโตขึ้นมา จนถึงวัยมีลูกแล้ว ไปไกลถึงวัยที่ลูกคุยสื่อสารกับเราได้ เป็นเรื่องแรกที่ต้องเล่นเป็นแม่คน เลยรู้สึกว่ามันแปลกใหม่มาก และต้องเล่นยังไงให้คนดูเห็นพัฒนาการ ให้คนดูเห็นว่าผู้หญิงคนนี้เจอเรื่องต่างๆทำให้เค้ามีทัศนคติเปลี่ยนไป

พูดถึงฝีมือการแสดง “เอสเธอร์” ขึ้นแท่นนางเอกเจ้าบทบาทโดยเฉพาะบทดราม่า จนหลายคนมองว่าละครดราม่าคือทางของ “เอสเธอร์” เจ้าตัวเผยว่า ใช้ “ความกลัว” เป็นแรงผลักดัน... “จริงๆหนูเป็นคนกลัวการเล่นดราม่า ไม่ชอบเลย หนูเลยคิดเสมอว่ายิ่งหนูไม่ชอบหรือกลัวอะไรก็จะยิ่งเจอ”

แล้วทลายความกลัวนี้ยังไง? “ก็ทลายเป็นซีนๆไป พอจะเล่นก็ทลาย พอมาใหม่ก็กลัวอีกแล้ว ก็ค่อยๆทะลุด่านไปทีละด่าน ยิ่งเริ่มเรื่องใหม่ๆ ทีมใหม่ๆก็จะมีความกลัวอีกแบบหนึ่ง หนูคงเป็นคนขี้กังวล วิธีคิดของหนูคือความกลัวนำ ความกังวลนำ หนูแค่ไม่รู้ว่าเวลาเราเล่นไปคนดูจะเชื่อในสิ่งที่เราเล่นมั้ยก็จะมีความกังวลแต่ก็จะคิดว่าถ้าเราลงมือแล้วก็อย่าคิดเยอะ เล่นไปเลยจะได้เป็นธรรมชาติ มันเป็นแค่ความรู้สึกแรกว่าวันนี้มีซีนยากจังเลย จะเล่นได้มั้ย หลังจากนั้นก็มีอีกเสียงนึงบอกว่าต้องทำได้ อย่าคิดเยอะ มันตีกันอยู่ในหัว แล้วพอเข้าซีนแล้วทุกอย่างก็จะปิ๊งหายไปเลยค่ะ”

10 ปีในวงการบันเทิง เอสเธอร์ เริ่มเข้าวงการตั้งแต่อายุ 16 งานนี้สนุกตรงที่ว่าเราได้เจอคนใหม่ๆ ทีมงาน ผู้กำกับใหม่ๆ การทำงานของแต่ละที่ก็ไม่เหมือนกัน เจอนักแสดงรุ่นพี่เก่งๆ ทำให้เราได้เห็น เรานำจุดต่างๆมาพัฒนาตัวเอง ตอนเด็กๆไม่เคยคิดเรื่องการเป็นนักแสดงเลย เพราะจริงๆเป็นคนขี้อาย ไม่กล้าคุยกับคนแปลกหน้า เข้าหาคนทำความรู้จักไม่เป็น มนุษยสัมพันธ์ไม่ดี จนได้มาทำงานด้านนี้มันทำให้เราค่อยๆกล้าพูด กล้าแสดงออกมากขึ้น

เรียกว่าใช้ชีวิตวัยรุ่นเติบโตในวงการเป็นคนสาธารณะ ที่ต้องถูกจับตา ทำให้การใช้ชีวิตไม่เหมือนวัยรุ่นทั่วไป ถามว่ายากไหม เอสเธอร์ เล่าว่า “ทุกอย่างมันค่อยๆซึมซับเข้ามา แรกๆอาจจะไม่ค่อยเข้าใจ แต่มันก็ปรับตัวได้ มองว่ามันก็เป็นวัฏจักรเรื่องธรรมดา โชคดีที่เราสนิทกับคุณแม่ คุณแม่คอยสอนคอยอยู่ใกล้ๆ ทำให้เราไม่ต้องเผชิญกับเรื่องราวต่างๆคนเดียวมีแม่อยู่ข้างๆตลอด กับชีวิตวัยรุ่นที่ต้องการอิสระ มันอาจจะเป็นความเคยชินที่เราเริ่มทำตรงนี้ตั้งแต่เด็ก เลยคิดว่ามันเป็นหน้าที่ เลยไม่ได้รู้สึกว่ามันลำบากมากหรือไม่อยากจะทำแล้ว อาจจะมีบ้างเวลาเพื่อนไปไหนกันเยอะแต่เราติดงาน มันแค่ความรู้สึกแว้บเดียว แต่การอยู่ตรงนี้ก็ได้ประสบการณ์โตขึ้น”

เรื่องงานกำลังไปได้ไกล เรื่องหัวใจ “เอสเธอร์” คบยาวนานกับพระเอกหนุ่ม “เคน–ภูภูมิ พงศ์ภาณุภาค” เป็นรักมาราธอนมา 7 ปี ที่ช่วงหลังโดนแซวว่าหนุ่ม “เคน” เอาเวลาไปทุ่มให้ต้นไม้ จนฝ่ายสาวถึงกับงอนจนซ่อนรูปเป็นเรื่องเป็นราวถึงตอนนี้ แบ่งเวลาปลูกต้นไม้กับปลูกต้นรักยังไงบ้าง “เอสเธอร์” เผยให้ฟัง “ตอนนี้ก็เฉลี่ยๆกันได้ดี อาจจะช่วงนั้นเค้าทำงานเยอะ เราก็ทำงานเยอะ ไม่ได้ใช้เวลาคุยกัน มีเวลาน้อยลง มันก็เลยมีบ้างที่แบบน้อยใจจังเลย ถามว่าเค้าก็รู้ฟีลเรามั้ย เค้าไม่รู้เลย เพิ่งมารู้วันที่ข่าวออก หลังจากนั้นเลยรู้ว่ามีคนเตือนเค้านะ เค้าเป็นอย่างนี้นะโอเคเค้าก็จะแก้ไขปรับปรุง ส่วนที่ยังซ่อนรูปอยู่คือหนูกลัว พี่เค้าชอบแซวหนูว่าพองอนก็จะซ่อนรูปอีก ต้องเอาออกอีก น้องจะเอายังไง เดี๋ยวไว้ถ่ายรูปใหม่ค่ะ เดี๋ยวมีโอกาสลงรูปคู่ใหม่ค่ะ”

รักกับเคน ณ วันนี้ลงตัวมั้ย? “ลงตัวนะคะ คนเราคบกันก็ ต้องศึกษากันทั้งชีวิต ศึกษากันทุกวัน คนเราจะให้คิดตรงกันทุกเรื่องมันก็ไม่มีทาง ต้องรู้จักการปรับตัวเข้าหากัน ประคับประคองกัน ส่วนอาถรรพณ์เลข 7 ที่ใครๆ บอกว่าเป็นปีที่คู่รักรู้จักกันหมดจนอาจเลิกรา “เอสเธอร์” ไม่หวั่น ไม่ได้รู้สึกว่ามันจะเกิด อะไรขึ้นหรือไปโฟกัสกับมันแค่รู้สึกว่าเราเป็นเหมือนเดิมและพร้อมจะปรับแก้กันเสมอ จะกี่ปีก็ไปได้เรื่อยๆ เป็นหญิงสาวมั่นคงชอบมีความรักคบใครคบไปยาวๆ “หนูเป็นคนชอบความเรียบง่าย สบาย ชอบความเคยชิน ไม่ชอบอะไรต้องตื่นเต้นมากจะเกร็ง เป็นกับทุกๆเรื่องนะคะ คงเป็นนิสัยเราจริงๆค่ะ”

ความเติบโตในวงการถึงวันนี้ หลายคนมองว่าเอสเธอร์จะเผยมุมสวยแซ่บเซ็กซี่ขึ้นมั้ย เจ้าตัวเขินรีบตอบว่า “หนูเขินค่ะ ทุกวันนี้ถ้าให้ทำอะไรที่เซ็กซี่มันไม่ใช่ตัวตนเราจริงๆ เรายังขำตัวเองเลย”

ทำไมถึงมองว่าตัวเองไม่ใช่ทางเซ็กซี่เลย? “ไม่ได้จริงๆค่ะ อย่าว่าแต่เราบอกตัวเองว่าไม่ได้ คนอื่นก็บอกว่าอย่าทำเลย (หัวเราะ) ด้วยลักษณะนิสัยเป็นคนรั่วๆโก๊ะๆ กระโดกกระเดก พอจะทำแกล้งๆเซ็กซี่ทุกคนก็จะหลุดขำแล้ว บอกว่าไม่ใช่ เวลาเที่ยวทะเลก็ถ่ายชุดว่ายน้ำนะคะ แต่ชุดว่ายน้ำก็แขนยาวหรือแขนสั้นหนูก็เขิน ขำท่าทางตัวเอง ไม่ได้ ไม่รอดจริงๆ”

ด้วยงานล่ะมีต้องอยู่ในโหมดเซ็กซี่มั้ย? “ไม่มีเลยค่ะ อาจจะไม่เคยเห็นในลุคนั้นจริงๆ”.