Inside Dara
"แซมมี่"แย้มหัวใจ ผู้ชายที่ทำให้มุมมองรักเปลี่ยน

ละคร “ไฟรักเกมร้อน” เพิ่งออกอากาศไปได้ไม่กี่ตอน ก็ทำเอานางเอกสาววิกหมอชิต แซมมี่-ดลลชา ภูวิจารย์ เคาวเวลล์ ยิ้มแก้มแทบปริกับกระแสตอบรับที่ดีเกินคาด “ดาวต่างมุม” วันนี้เลยต้องขอนัดแซมมี่มานั่งพูดคุยถึงผลงานชิ้นล่าสุด รวมถึงฉากเลิฟซีนสุดร้อนแรงกับพระเอกคู่จิ้น ธันวา สุริยจักร ในเรื่องที่หลายคนกำลังพูดถึง และไม่พลาดที่จะถามถึงเรื่องหัวใจกับหนุ่ม ๆ ที่ตกเป็นข่าวว่าใครกันแน่ที่เป็นตัวจริงของเธอ

ละคร ไฟรักเกมร้อน กระแสตอบรับเป็นยังไงบ้าง?

“กระแสดีเว่อร์ค่ะ ดีเกินคาด (ยิ้ม) คนพูดถึงกันเยอะทั้งในโซเชียล หรือเวลาไปเจอใครเขาก็จะบอกว่าได้ดูละครนะ เราก็หายเหนื่อยเลย”

บทบาทเรื่องนี้เป็นอย่างไร?

“แซมรับบทเป็น “พิรญาณ์” ตอนแรกจะเป็นนางเอกใส ๆ รักกับพระเอก แล้วก็แอบไปแต่งงานกันอยู่เมืองนอกกันสองคน กะว่ากลับมาเมืองไทยจะบอกพ่อแม่ แต่ตัวธันวาที่รับบทเป็น “ปาณัท” เขาจะมีปมและมีความลับบางอย่างที่ไม่ได้บอกเรา ซึ่งเขาคิดว่าความรักของคนสองคนมันจะช่วยทำให้ทุกอย่างผ่านไปได้ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่อย่างนั้น ก็เลยเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ครอบครัวพัง จากที่รักมากก็พยายามเกลียด พยายามตัดคน ๆ นี้ออกจากชีวิตไปเลย แล้วขณะที่ชีวิตเรากำลังแย่ลง แต่เขากลับมีชีวิตดีขึ้น เราเลยกลับไปแก้แค้น จะเอาทุกอย่างคืน คือบทนี้ก็เครียดดีนะ ถ้าเทียบความดราม่ากับเรื่องที่ผ่าน ๆ มาอาจจะพอกัน แต่เรื่องนี้จะยากเรื่องเลิฟซีน”

ข่าวว่าเลิฟซีนดุเดือดมากเลย?

“ตั้งแต่แซมเข้าวงการมา เรื่องนี้ฉากเลิฟซีนเยอะที่สุดแล้ว”

ฉากเลิฟซีนที่ร้อนแรงที่สุดเป็นยังไง?

“คงเป็นฉากเลิฟซีนที่ต้องจูบกลางสายฝน ซึ่งตามเนื้อเรื่องก็ยังอยู่ในแผนการแก้แค้นของเรา แต่ด้วยพื้นฐานของคนสองคนที่รักกันมากอยู่แล้ว เวลาใกล้ชิดกันก็มีความสุข เลยห้ามใจไม่ไหวกันทั้งคู่ เลยปล่อยทุกอย่างไปตามอารมณ์ เพราะที่ผ่านมาเรารักกันแต่ไม่สามารถแสดงออกได้ ฉากนั้นก็เลยยืนจูบกันกลางสายฝน แล้วก็ลากไปต่อกันบนห้อง เป็นช่วงที่พีคสุด ๆ”

เขินมั้ย?

“แรก ๆ ก็เขินค่ะ เพราะส่วนตัวเราไม่ถนัดเลิฟซีนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นพอเข้าฉากเลิฟซีนจะเกร็งเพราะไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง แต่ว่าธันวาเขาถนัดอะไรแบบนี้ เขาจะพลิ้ว เพราะเขาดูหนังฝรั่งเยอะ เลยจะรู้เรื่องภาษากายแบบฝรั่งที่เขาซึมซับมา ก็โชคดีที่ได้ธันวาช่วย ส่วนจะมาจาก อินเนอร์ส่วนตัวของธันวาเองหรือเปล่า อันนี้ไม่แน่ใจ ต้องถามเขาเอง (ยิ้ม)”

ตอนนี้กลายเป็นคู่จิ้นคู่ใหม่ไปแล้ว?

“จริง ๆ แฟนคลับคู่จิ้นมีตั้งแต่ก่อนละครจะออนแอร์ด้วยซ้ำ มีทำอินสตาแกรม @thanwasammy ด้วย ซึ่งพอละครออนแอร์แล้วเขาก็อินกันมากกว่าเดิมอีก มีแต่คนฟิน อยากจะเป็นแซมมี่ อะไรอย่างนี้ เราก็ดีใจ”

พอมีฉากกุ๊กกิ๊กด้วยกันเยอะ ก็เลยมีข่าวว่าอินนอกจอ?

“แซมว่าไม่น่าแปลกนะคะ ถ้าไม่เป็นข่าวสิแปลก เพราะบางทีเราเล่นกัน ถ่ายรูปลงอินสตาแกรม ก็ทำให้คนคิดไปได้ คือเราก็ยอมรับว่าสนิทกัน ไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องมาแอ๊บว่าไม่สนิทกันเลย เราก็เป็นตัวเองกันทั้งคู่”

เห็นว่าสนิทจนมีคำเรียกแทนกันเลย?

“ใช่ค่ะ ตอนแรกเป็นแม่กับลูกก่อน คนในกองก็จะบอกว่าธันวาเป็นลูก เวลาทำอะไรก็จะเรียก แม่ ๆ มาดูลูกด้วย แต่พอเล่น ๆ ละครไปเลิฟซีนก็เยอะ ธันวาก็ชอบมาแอ๊ว มาไซร้ มาเป่าหู จากนั้นในกองเขาก็เลยเรียกว่า คู่ผัวเมีย แทน (หัวเราะ) ซึ่งธันวาเขาก็ไม่เขินนะ เขาก็จะชอบเรียกว่าเมียจ๋า เอะอะอยากจะกอดเมียจ๋าตลอด ถ้าคนข้างนอกได้ยินเขาคงงงเหมือนกัน ก็ไม่แปลกที่คนจะคิด คือถ้าคนที่มากองถ่ายประจำเขาจะเข้าใจว่าไม่มีอะไรหรอก แค่เรียกกันเล่น ๆ แต่บางคนที่เขาไม่เคยเจอเรา เขาก็จะแอบมาถามนี่เรียกกันจริงหรือในละคร ก็บอกว่าแค่ในละครค่ะ เดี๋ยวก็ชินไปเอง นี่คือเรียกกันปกติค่ะ”

นอกจากละครเรื่องนี้ แซมมี่มีละครอะไรอีกบ้าง?

“ตอนนี้ถ่ายละครเรื่อง “เสน่หามายา” อยู่ค่ะ เป็นละครดราม่าอีกเหมือนเดิม แล้วก็ต้องปะทะบทบาทกับพี่ แอน-สิเรียม ด้วย ซึ่งเรื่องนี้เป็นละครที่พี่แอนเป็นผู้จัดด้วย เดี๋ยวน่าจะมีงานบวงสรวงเร็ว ๆ นี้”

แล้วเรื่องการเรียนตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?

“เรื่องเรียนก็ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปค่ะ ตอนนี้เรียนอยู่ปี 2 คณะสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยรามคำแหง ค่ะ ก็ได้รุ่นพี่ที่เป็นแฟนคลับเรา ซึ่งจบมาจากที่นี่ช่วยดูตารางให้ เราก็จะบอกคิวเขาว่าเราไปได้ช่วงนี้นะ เวลาเป็นแบบนี้ เขาก็จะจัดการให้ แล้วก็จะเตรียมหนังสือต่าง ๆ มาให้เราอ่าน แล้วก็ไปสอบตามตารางเท่านั้นเอง”

ก่อนหน้านี้แซมมี่เคยให้สัมภาษณ์ว่าให้ผู้จัดการจัดงบให้ใช้เงินเดือนละ 4,500 ตอนนี้ยังเป็นเหมือนเดิมหรือเปล่า?

“ก็ยังใช้เงินเดือนละ 4,500 บาทเท่าเดิมค่ะ คือเราก็อยู่ได้ เราชินไปแล้ว เพราะส่วนมากทุกวันเราก็อยู่กอง ไม่ได้ซื้ออะไรเลย ก็จะหมดไปกับค่ากาแฟ ค่าทางด่วนและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ระหว่างเราต้องไปทำงานเท่านั้นเอง อย่างไปไหนมาไหนกับธันวา เขาก็จะเป็นคนมีน้ำใจ ก็จะเลี้ยงข้าวอะไรอย่างนี้ (หัวเราะ) แต่บางทีเราแชร์กันนะคะ บางทีเราเลี้ยงเขาบ้างก็มี คือแต่ละเดือนก็ใช้หมดแต่ไม่ใช่ว่าไม่พอใช้นะคะ ก็อยู่ได้”

ตั้งใจเก็บเงินขนาดนี้ มีแพลนจะซื้อหรือทำอะไรหรือเปล่า?

“ตอนนี้ยังไม่มีนะคะ เรื่องซื้อบ้าน ซื้อรถก็คงยังไม่ใช่ตอนนี้ เรายังไม่อยากเพิ่มหนี้ให้ตัวเอง เพราะทุกวันนี้เราก็ทำงานคนเดียว รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในบ้าน อยู่อย่างนี้ก็แฮปปี้ ไม่ต้องมีรถตู้ หรือมีคนขับรถ เราก็อยู่ได้ แต่คุณแม่ก็อยากให้มีคนขับรถนะ เพราะเขาจะเป็นคนคอยขับรถไปไหนมาไหนให้เราตลอด ซึ่งตอนนี้แม่ก็เริ่มแก่แล้ว สายตาก็ไม่ค่อยดีเหมือนเดิม เขาก็จะบอกว่ารีบ ๆ ทำงาน แล้วซื้อรถตู้ แล้วหาคนขับให้แม่ด้วยนะ คือถ้าซื้อก็จะซื้อให้แม่นะคะ ไม่ใช่ซื้อให้ตัวเอง แต่ก็รอให้พร้อมก่อน เพราะถ้ามีคนขับรถ เราก็ต้องปรับตัวและการใช้ชีวิตด้วยนะ”

ถามถึงเรื่องหัวใจบ้าง สรุปใครเป็นตัวจริง?

“ถามกี่ทีก็ตอบเหมือนเดิมเลยค่ะว่ายังไม่มีอะไร แต่ก็มีข่าวมาเรื่อย ๆ มีมาตลอด ซึ่งเราก็ถือว่าเป็นสีสันในชีวิตให้คนยังไม่ลืมเรา”

ก่อนหน้านี้มีข่าวกับ ตั้ม-วราวุธ (ตั้ม เดอะสตาร์) หลายคนก็จิ้นมาก?

“ก็ดีนะคะ ทำให้เรามีคู่จิ้นเพิ่ม ทั้งที่ยังไม่เคยร่วมงานกันเลย ทุกวันนี้ในอินสตาแกรมเรา ส่วนใหญ่จะเป็นแฟนคลับของตั้มนะ ที่มาคอมเมนต์ มาคุยเล่น ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะต่อให้ตอนนี้เราตกลงเป็นพี่น้องกัน แฟนคลับเขาก็ยังชอบเราอยู่ ก็น่ารักดีค่ะ”

ตอนนั้นดูเขาก็ออกตัวแรง แซมมี่ งงไหม ที่อยู่ ๆ เขาก็ออกมาบอกว่าเลิกจีบ?

“อย่าเรียกว่าออกตัวแรงเลยค่ะ คือน้องเขาเป็นคนตรง ๆ คิดยังไงก็พูดอย่างนั้น ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ดีนะ เพราะเขาทำให้เราเห็นว่าเขาจริงใจกับเรา ส่วนเรื่องที่เขาเลิกจีบ จริง ๆ เราก็มีการพูดคุยกันก่อนหน้านั้นอยู่แล้ว มีการตกลงกันว่าก็เป็นพี่เป็นน้องกันไปก่อน เพราะตอนนี้น้องเขาก็ทำงานเยอะ ส่วนเราก็มีสิ่งที่ต้องทำในชีวิตหลาย ๆ อย่าง อนาคตจะเป็นยังไงก็ปล่อยให้เป็นไป ซึ่งเรารู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นคนตรง รู้อยู่แล้วว่าถ้าเขาเจอนักข่าวเขาจะสัมภาษณ์ยังไง เลยไม่ได้รู้สึกตกใจขนาดนั้น แต่ช่วงที่น้องเขาหายไป ช่วงนั้นเป็นช่วงที่น้องเขาไม่สบาย และทำงานเยอะมาก ประเด็นหลัก ๆ ที่เราคิดก็คือเป็นห่วงเขา ว่าเป็นอะไรหรือเปล่า เข้าโรงพยาบาลหรือเปล่า แต่ไม่ได้คิดว่าเขาหายไปไหน ทำไมไม่คุยกับเรา”

หลังจากนั้นมีใครเข้ามาจีบอีกไหม?

“ไม่มีนะคะ เราไม่ค่อยได้เจอใครด้วย ไม่ค่อยได้ไปไหน แล้วปกติหน้าตาเราก็ไม่ได้เชิญชวนให้ใครอยากเข้ามาคุย เพราะเป็นคนหน้าคว่ำ มีตั้มนี่แหละแปลกมาก เข้ามาจีบได้ยังไงก็ไม่รู้”

แต่ก็มีหนุ่ม ๆ อีกหลายคนถูกโยงนะ ทั้งกอล์ฟ-อนุวัฒน์ ทั้ง อ๋อม-อรรคพันธ์?

“มีคนถูกโยงหลายคนมาก ซึ่งจริง ๆเราไม่อยากให้ลากใครเข้ามาเกี่ยวด้วยเลย เพราะก็เป็นเรื่องของคนสองคน อย่างพี่กอล์ฟเราก็เข้าใจเพราะมีข่าวด้วยกันมาตลอด ซึ่งเราก็ไม่ได้โกรธนะ แต่ถ้าเรามีโอกาสพูด มีโอกาสอธิบายเราก็พูด แต่ไม่เห็นมีใครจะเชื่อเลย”

ทุกวันนี้สเปกเปลี่ยนไปไหม?

“จริง ๆ เราเป็นคนไม่มีสเปกเลยนะคะ แต่ยอมรับว่าตอนรู้จักกับตั้มความคิดเราเปลี่ยนไปอย่างหนึ่ง คือเมื่อก่อนเราไม่ชอบคนที่เด็กกว่า ตั้งแต่เกิดมาเราไม่ค่อยเปิดใจให้คนที่เด็กกว่าเข้ามา แต่พอรู้จักกับตั้มก็ทำให้รู้สึกว่าเราไม่ควรตัดสินใครแบบนั้น ต่อให้เขาอายุน้อยกว่าเรา แต่บางมุมที่เราสัมผัสได้คือเขาโตกว่าเราด้วยซ้ำ ทั้งเรื่องความคิด และอะไรหลาย ๆ อย่าง ตอนนี้เลยทำให้เราคิดว่าอายุไม่ใช่ประเด็น ขอแค่คุยกันรู้เรื่องแค่นั้นก็พอแล้ว”

ถูกจับตามองเรื่องความรักแบบนี้ วางตัวลำบากไหม?

“สำหรับคนอื่นไม่รู้นะ แต่สำหรับแซมก็ไม่นะคะ ก็ปกติเลย เราแยกกันได้ว่าเวลาทำงานก็คือทำงาน เรื่องส่วนตัวก็คือเรื่องส่วนตัว เวลาไม่ได้ทำงานเราก็คือคนปกติที่มีสิทธิที่จะชอบและชื่นชมคนอื่น ๆ ได้ อย่างชอบตั้มก็บอกว่าเราชอบ เราเป็นติ่งเขานะ ตอนนี้ก็ยังเป็นติ่งอยู่ เป็นหนักกว่าเดิมด้วย ดูทุกคลิปเลย (หัวเราะ) กับตั้มเราก็ยังคุยกันเรื่อย ๆ นะ คอยดู ส่องอินสตาแกรมว่าเขาไปไหน ทำอะไร เราก็ยังทำเหมือนเดิมหมด จริง ๆ เราก็อยากไปเชียร์เขานะ แต่บางทีวันที่เราว่าง เขาก็ไปต่างจังหวัด เราก็ไปไม่ได้”

สรุปว่ายังโสดสนิทเหมือนเดิม?

“ใช่ค่ะ ยังโสดมาก ยังไม่รีบค่ะ ขอรับผิดชอบหน้าที่ที่มีอยู่ให้รอดก่อน ทั้งงานละคร แล้วก็อะไรหลาย ๆ อย่าง”

สุดท้ายให้แซมมี่ฝากอะไรถึงแฟน ๆ หน่อย?

“อย่างแรกต้องขอบคุณทุกคนที่ติดตามละครเรื่องนี้ ก็อยากให้ติดตามกัน เพราะต่อไปมันจะแซ่บขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ ขนาดเราเล่นเอง ยังดูไปเกร็งไป กัดฟันไปเลยค่ะ แล้วสุดท้ายก็ฝากคู่จิ้น “แซมมี่-ธันวา” ด้วยนะคะ” แหม...ก็ทั้งสวยทั้งแซ่บขนาดนี้ จะไม่ให้เป็นข่าวกับหนุ่ม ๆ เยอะได้ยังไงล่ะจ๊ะ!?!“