Inside Dara
พิสูจน์ความเป็น 'อโณทัย' ถ่ายทอดจากใจ 'แกงส้ม'

ได้รับเลือกให้มารับบท "อโณทัย" ในละครเวที "เลือดขัตติยา เดอะมิวสิคัล" ที่เปิดแสดงไปตั้งแต่ปีที่แล้ว กระแสตอบรับมีทั้งบวกและลบ พร้อมทั้งมีคำถามมากมายตามมาว่า "แกงส้ม-ธนทัต ชัยอรรถ" เหมาะสมกับบท "อโณทัย 2013" จริงเหรอ แล้วอะไรที่ทำให้หนุ่มดาวรุ่งพุ่งแรงคนนี้ปาดหน้าทุกคนคว้าบทนี้มาครองได้ วันนี้ "บันเทิง คม ชัด ลึก" จะพาไปเปิดตัวและเปิดใจ "อโณทัย 2013" คนนี้กัน

อโณทัย 2013
การมารับบทเป็นอโณทัย เป็นอย่างไรบ้าง

มีการพูดคุยกันมานานแล้วเป็นปี หลังจากที่ผมแสดงละครเรื่อง "บ่วงรัก" จบ ก็ได้ทราบว่าทางพี่บอย (ถกลเกียรติ วีรวรรณ) จะทำโปรเจกท์นี้ เขาก็มีการมาคุยว่า เขาอยากให้มาลองแคสในบทอโณทัย ซึ่งตอนนั้นเราทั้งกลัว ทั้งตื่นเต้น คือที่กลัวเพราะว่าละครเวทีมันยาก แล้วเราก็เป็นนักแสดงใหม่ มีผลงานละครมาแค่เรื่องเดียว เรารับรู้มาตลอด ว่าศาสตร์ละครเวที เป็นศาสตร์ที่มีความยาก และถือเป็นศาสตร์ชั้นสูงของการแสดง ส่วนของความตื่นเต้น มันเกิดจากที่ว่า เราได้มีโอกาสเล่นละครเวทีเรื่องนี้ เป็นบทที่เราเชื่อว่าไม่มีใครสักคนที่จะปฏิเสธบทนี้ได้ มันเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของเรา

ได้ลองเล่นไปแล้วหลายครั้ง ความกดดันที่มีในตอนแรกลดลงไหม

ตอนแรกมันมีความเครียด ความกดดันทุกอย่าง เรากลัวสิ่งใหม่ แต่พอพี่ๆ นักแสดง และพี่ๆ ทีมงานทุกคนพร้อม ความเครียดมันก็หายไป เพราะเรารู้สึก ว่าไม่ได้มีแค่เราคนเดียว ยังมีคนอื่นๆ ที่เขาช่วยกัน ละครเวทีเป็นเรื่องของการทำงานเป็นทีม ทำให้เกิดความรู้สึกสนุก รู้สึกถึงความเป็นครอบครัว เราสบายใจ มั่นใจ มีความสุข ที่ได้ทำมันออกมา ตอนแรกเรากังวล ว่าจะไม่มีใครมาดู แต่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว ตอนนี้เราอยากแค่ทำการแสดงในทุกๆ รอบให้เต็มที่ มีสมาธิกับมันมากที่สุด เพื่อให้ทุกคนที่ทำงานร่วมกับเราไม่ติดขัด แล้วแสดงไปได้พร้อมๆ กัน

ในเรื่อง "อโณทัย" เป็นทหารที่เก่งกาจ "แกงส้ม" ต้องไปเรียนรู้อะไรเพื่อมารับบทนี้ให้สมบูรณ์

เรียนรู้เยอะมาก เพราะบทอโณทัยค่อนข้างไกลตัวผม เราเป็นเด็กที่ใกล้กับทหารมากที่สุดก็คือ รด.(นักศึกษาวิชาทหาร) แต่การเรียน รด. เราสนุกสนานกับเพื่อนก็ไม่ได้จริงจัง แต่ในบทคือเป็นทหารจริงๆ หลักๆ เลยต้องไปอยู่กับพี่ๆ ทหารอากาศเข้าไปฝึกที่โรงเรียนทหารอากาศ ไปเรียนอยู่ประมาณ 3 เดือน เพื่อจะได้รู้ว่าทหารรู้สึกยังไง การเป็นทหารทำให้ได้ระบบความคิดที่เป็นระเบียบมากขึ้น มันช่วยให้ใช้ชีวิตง่ายขึ้น ไม่ยุ่งเหยิง เหมือนการมองภาพกว้าง แล้วเราจะแก้ไขอะไรได้ ซึ่งหากว่าไม่ได้ไปเรียนรู้เรื่องของการเป็นทหาร ผมจะไม่มีทางเข้าใจ ว่าอโณทัยเขารู้สึกยังไงที่ต้องเลือกระหว่างหน้าที่กับความรัก

กระแสตอบรับที่ผ่านมา 13 รอบเป็นยังไงบ้าง

หลายๆ คนบอกว่าดีกว่าที่คาดไว้ ด้วยวิธีการเล่าก็แปลกใหม่ รวมไปถึงเนื้อหาที่เข้มข้นทั้งในแง่ของความรักและเหตุการณ์บ้านเมือง ซึ่งเมื่อได้ยินกระแสตอบรับ ทำให้นักแสดงและทีมงานทุกคนชื่นใจมาก แต่อย่างที่รู้ว่าทุกอย่างต้องมีสองด้าน กระแสตอบรับในเชิงลบก็มี แต่ผมเองเป็นพวกไม่ตามกระแสเท่าไหร่ ส่วนใหญ่คำติชมต่างๆ ที่รับมา ผมจะฟังจากพี่บอย (ถกลเกียรติ วีรวรรณ) พี่บอยจะบอกว่าเราทำดีหรือไม่ดี แต่ก็มีหลายๆ คนที่เข้ามาบอกกับผมว่า เขาตกใจ เพราะไม่คิดว่าเราจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ เพราะหลายๆ คนไม่คิดว่าเราจะมาเล่นบทนี้ได้

คาดหวังไหม ว่าเราจะเป็นอโณทัยอย่างที่หลายคนวาดฝันไว้ได้

ไม่ได้คาดหวังอะไรเลยกับบทนี้ อย่างที่บอกว่าผมเชื่อว่ามีนักแสดงอีกหลายๆ คน ที่พร้อมจะเล่นบทนี้ เมื่อเราได้รับมอบหมายมาแล้ว เราก็ต้องเต็มที่ที่สุด จะมามัวคิดว่าเราจะเป็นอโณทัยได้ไหม คนจะชอบไหมไม่ได้แล้ว เพราะตอนนี้เราคืออโณทัยแล้ว และด้วยการสอนของพี่บอย ทุกอย่างที่ผ่านมา มันทำให้เราไม่ได้คาดหวังกับอะไร สิ่งเดียวที่คิด คือต้องทำให้ได้ดีที่สุด ซึ่งการทำงานตรงนี้ มันให้อะไรเราเยอะมาก มันคุ้มแล้ว ได้เรียนเยอะ ได้พัฒนาตัวเอง พี่บอยแฮปปี้ ทุกคนแฮปปี้ เราก็โอเคแล้ว เราไม่ต้องคิดว่าใครจะว่ายังไง เราทำงานตรงนี้ให้มันออกมาได้ตามที่ทีมงาน ทุกคนหวังไว้ก็โอเคแล้ว เพราะกว่าจะมาถึงขั้นตอนการแสดงจริง ผมผ่านอะไรมาเยอะมาก โดนดุ โดนว่า โดนจนไม่รู้จะบอกยังไง จนสุดท้ายเราจัดระเบียบความคิดตัวเองได้ กลับไปเปลี่ยนแปลงความคิดตัวเอง แล้วเราก็ได้รู้ว่าจุดมุ่งหมายของการทำงานนี้ว่าคืออะไร สอนชีวิตเราในเรื่องของมุมมอง ทัศนคติ มันเปลี่ยนไปเยอะ

ละครเวทีเรื่องนี้รวมนักแสดงคุณภาพและประสบการณ์ชั้นเซียนทั้งนั้น แกงส้มถือว่าเป็นเด็กน้อยที่สุด รู้สึกยังไง

ตอนแรกที่ได้เห็นรายชื่อนักแสดง ที่จะมาเล่น ผมบอกเลยว่าขนลุก คือกลัว เราจะทำได้ไหม กลัวจะเป็นตัวถ่วงพี่ๆ เขาหรือเปล่า พอเข้าไปจริงๆ ทุกคนพร้อมจะให้คำแนะนำ ยิ่งพี่ๆ รุ่นใหญ่ทั้งพี่เอ๋ (ไพโรจน์ สังวริบุตร) พี่ต้อม (พลวัฒน์ มนูประเสิรฐ) พี่เจี๊ยบ (นนทิยา จิวบางป่า) และพี่ๆ อีกหลายคน ทุกคนดีมาก ทุกคนเขามาทำสิ่งที่เขารักกัน ทุกคนพร้อมจะแชร์ ทำให้เรารู้สึกว่า เรามีเท่าไหร่ เราทำเต็มที่ พวกพี่ๆ เขาเองก็เหมือนกัน ทุกคนทำเต็มที่ ซึ่งการแสดงละครเวที เป็นการแสดงสดต่อหน้า ข้อผิดพลาดของคนหนึ่ง จะเป็นข้อผิดพลาดของทั้งหมด เพราะฉะนั้นทุกคนจะช่วยเหลือกัน เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด มันเป็นการทำงานเป็นทีมเวิร์ก

ชีวิตเดอะสตาร์
2 ปีกับการก้าวเข้ามาอยู่ในวงการ เป็นยังไงบ้าง

เรียกว่ายังไงดีล่ะ คือช่วงแรกๆ มันเป็นชีวิตที่มึนงง สับสนนิดหนึ่ง แต่ช่วงนี้ก็ดีขึ้น การได้มาทำงานใหญ่ ช่วยให้ไม่กลัวการทำงาน ชีวิตเปลี่ยนไปเยอะมากกับก่อนหน้านี้และตอนนี้ มองย้อนกลับไป มองหาเพื่อนๆ ที่ยังเรียน เพื่อนๆ ยังทำอะไรตามแบบของวัยรุ่นอยู่ แต่เราต้องทำงานแล้ว มันกลายเป็นว่า เรามุ่งไปข้างหน้า ชีวิตเราไปข้างหน้าเร็วมาก พอมองกลับไปแล้ว รู้สึกว่าเราโชคดีนะ ที่ได้มีโอกาสเข้ามาทำงานตรงนี้ แล้วเราได้ทำงานเหมือนที่ผู้ใหญ่เขาทำ

ปรับตัวเยอะไหมจากที่เป็นผู้ชายที่ชื่อ "แกงส้ม" มาเป็น "แกงส้ม เดอะสตาร์"

ปรับเยอะมากจริงๆ ทั้งความสับสน ว่าตกลงเราเป็นใคร เราทำอะไร เราต้องทำยังไงบ้าง ช่วงแรกมันจะงง ว่าทำแบบนี้มันได้หรือไม่ได้ จะงงไปหมด แต่พอเรารู้สึกว่า การที่เราอยู่ตรงนี้ สำหรับผมคือได้มาทำสิ่งที่ชอบ ไม่ใช่แค่ว่าเราพอใจฝ่ายเดียว แต่ยังมีคนที่รอชมผลงานของเราอีกมาก เราต้องทำให้เต็มที่ คนที่ดูเราเขาต้องได้คุณภาพอย่างที่เขาคาดหวัง เราเองก็โอเค เราพอใจแล้ว ทุกวันนี้เราโตขึ้น ความรับผิดชอบเรามากขึ้น มีวินัยกับตัวเองมากขึ้น

มีคนบอกว่าการมาอยู่ตรงนี้ต้องแลกระหว่างชื่อเสียงกับความเป็นตัวเองและพื้นที่ส่วนตัวไปแกงส้มรู้สึกแบบนั้นไหม

สำหรับผมความเป็นตัวเองไม่เสีย แต่ความเป็นส่วนตัวเสียแน่นอน การที่เราจะเดินไปกินข้าวธรรมดาๆ อยากกินท่าไหน มันไม่ได้แล้ว เพราะกินๆ อยู่ แล้วเขาก็ขอมาถ่ายรูป แล้วด้วยสถานการณ์ ด้วยอะไรทุกอย่าง มันไม่ใช่แค่ว่าเราต้องทำตัวให้ดูดีอยู่ตลอดเวลา แต่เราต้องปรับให้ตัวเองโตขึ้นมากกว่า เพราะว่าเราจะมาเป็นเด็กๆ ไม่สนใจก็ไม่ใช่ มันก็ต้องดูแลตัวเองด้วย แต่เรื่องความเป็นตัวเอง ผมว่ามันแล้วแต่คนที่จะคิด ถ้าเรามั่นใจว่าเราทำดี ไม่เดือดร้อนใคร เราทำงานได้คุณภาพตามที่ผู้ใหญ่ต้องการ การมาอยู่ตรงนี้ต้องยอมรับให้ได้ว่าจะมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ แต่สุดท้ายแล้วงานจะเป็นตัวตอบโจทย์ตรงนี้เอง

ว่ากันว่าการที่มาจากเวทีการประกวดที่ใช้การตัดสินด้วยการโหวต จะอยู่ในวงการยากกว่านักแสดงโดยปกติ เพราะมีฐานแฟนคลับที่ต้องดูแล

เรื่องนี้ผมว่าจริง เพราะว่าแฟนๆ เป็นหนึ่งกลุ่มที่เขาคอยสนับสนุนเรามาตั้งแต่วันแรกที่เราเข้ามา ถ้าวันนั้นเขาไม่สนับสนุน ไม่มีทางมีเราในวันนี้ มันเลยเป็นเหมือนดาบสองคม คือมีอะไรเขาก็จะพูดต่อกัน ซึ่งถ้ามันเป็นเรื่องดี เป็นเรื่องเกี่ยวกับงาน มันก็จะกระจายไปเร็วมาก แต่กลับกัน ถ้ามันเป็นเรื่องที่ไม่ดี เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะบอกกัน แต่มันก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ที่เขาจะคุยกันเอง แล้วบางทีมันก็จะหลุดไปเยอะมาก มันก็เป็นอีกหนึ่งอย่าง ที่เวลาเราจะทำอะไรเราต้องระวัง แล้วเราต้องคิดว่า อันนี้คือแฟนคลับ ถ้าเกิดเขารู้เขาจะรู้สึกยังไง จะส่งผลกระทบกับเรายังไง มันต้องคิดอีกหลายขั้นตอน ซึ่งผมก็รู้สึกว่า มันก็เป็นเรื่องดี บางครั้งมันอาจจะมีความรู้สึกว่าทำไมมันเยอะจังเลย แต่ถ้าเกิดเราหนักแน่นในความเป็นเราไว้ แล้วก็ตั้งใจทำงาน ผมว่าสุดท้ายแล้ว แฟนคลับที่เขารักเราจริงๆ เขาก็จะอยู่กับเราเสมอ และสิ่งที่ตอบแทนเขาได้จริงๆ ก็คือคุณภาพงาน นี้คือการตอบแทนที่ดีที่สุดให้เขาในฐานะศิลปิน

รักแอบๆ
พูดถึงเรื่องของหัวใจกันบ้าง ความรักของแกงส้มตอนนี้เป็นยังไงบ้าง

ตอนนี้ก็ไปเรื่อยๆ คุยกันเรื่อยๆ เราไม่ได้จริงจัง ตอนนี้งานเยอะมาก เราก็ดูๆ กัน สำหรับผมความรักมันต้องเจอคนที่เข้าใจกันจริงๆ เพราะผมทำงาน คืองานเยอะ เวลาก็ไม่มี แล้วถ้าต้องมางอแง คงไม่ไหว คงต้องดูไปยาวๆ

การเป็น "แกงส้ม เดอะสตาร์" จะมีความรักกับใครสักคน มันเป็นเรื่องที่ยากไหม

ถามว่าการมีความรักยากไหม มันก็ไม่ได้ยาก แต่พอผมเริ่มมาทำงานตรงนี้ การจะมีใครสักคนเข้ามา มันมีองค์ประกอบหลายอย่าง เอาจริงๆ ผมขอแค่คนที่เข้าใจ แน่นอนการคบใครสักคนคือภาระที่เพิ่มขึ้น แต่ภาระนั้นต้องไม่ส่งผลกระทบกับงาน มันต้องเป็นภาระที่เรารู้สึกว่ามีความสุขมากกว่าความทุกข์ แต่ถ้าภาระนั้นก่อเกิดความทุกข์มากกว่าความสุข มันก็ไม่มีประโยชน์ที่จะคบกัน ของแบบนี้มันต้องให้เวลากับมัน

งั้นถามปิดท้ายเลยแล้วกันว่าความสัมพันธ์กับ "ดาร์ลิ่ง" อารดา อารยวุฒิ อยู่ในฐานะของคนที่กำลังศึกษาดูใจกันหรือเปล่า

เป็นคนที่คุยกันไปเรื่อยๆ อย่างที่บอกว่าเราก็คุยกัน ซึ่งไม่ได้รีบร้อนอะไร ผมอยากเจอคนที่เข้าใจจริงๆ ถ้ารีบร้อนแล้วสุดท้ายก็เละ คงไม่ไหว ต้องดูกันไปเรื่อยๆ ผมเพิ่งอายุ 21 ปีเอง งานตรงนี้ก็หนักมากสำหรับคนอายุเท่านี้ ถ้าการเพิ่มภาระมันทำให้ความทุกข์เกิดมากกว่าความสุข ฉะนั้นก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร

เขาคนนี้แหละ "อโณทัย 2013"
หนุ่มคนนี้ชื่อ : "แกงส้ม" ธนทัต ชัยอรรถ
เกิด : 30 มีนาคม พ.ศ. 2535
การศึกษา : กำลังศึกษาอยู่ที่สถาบัน SAE ประเทศไทย กรุงเทพมหานคร สาขา Sound Engineering
ผลงานที่ผ่านมา : รองชนะเลิศ "เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาวปี 8, ละครเรื่องแรก "บ่วงรัก" ทางช่อง 5, อัลบั้มเพลง "Kangsom 24.7"
ผลงานล่าสุด : รับบท "อโณทัย" ในละครเวที "เลือดขัตติยา เดอะมิวสิคัล"