Inside Dara
‘ปู`ไปรยา’ เคยหนีจากวงการ เกือบจบชีวิตเพราะคำบูลลี่

นักแสดงและนางแบบสาวสุดแซ่บระดับอินเตอร์ “ปู-ไปรยา สวนดอกไม้ ลุนด์เบิร์ก”เผยเรื่องราวชีวิตในอดีตที่เคยวิ่งหนีออกจากวงการและครอบครัว เพราะคำบูลลี่ว่าเป็นของเล่นไฮโซ ไม่สวย ตัวดำ จนถึงขั้นที่อยากจะจบชีวิต ต้องเก็บตัวอยู่กับตัวเองถึง 3 ปี แต่ก็สามารถก้าวผ่านจุดนั้นมาได้ เป็นบทเรียนชีวิต เลือกที่จะรักตัวเองเป็นคนใหม่ที่แกร่งขึ้นกว่าเดิมโดยไม่ยึดติดกับอะไร ในรายการ WOOD FM

ความรักที่ไม่สมหวัง สาเหตุเพราะอะไร ?

ปู : ปูเลือกคนที่ผิด เพราะว่าตอนนั้นไอยังรักตัวเอง และยังไม่รู้จักตัวเองพอ อย่าลืมไอเริ่มเป็นดาราตั้งแต่อายุ 13 พร้อมกับเรียนไปด้วย ปูแย่มากตอนนั้น ปูยังจำได้เลยว่า ปูมีปมกับคอมเมนต์ในอินเตอร์เนต เป็นเรื่องที่ไม่เคยเล่าให้ใครฟังมาก่อนเลย ช่วงละครเรื่องแรกตอนนั้นเตะบอลผิวเลยจะคล้ำๆ หน่อย ปูว่าผิวสีแทนสวยมาก จำได้ละครเพิ่งออก ก็เลยเข้าไปดูในเว็บช่อง 7 เมื่อก่อนจะมีกระทู้เยอะมีคนบอกว่าเป็นนางเอกได้ไงตัวดำมากเลย ปูวิ่งออกจากห้องหนังสือร้องไห้กองกับพื้นทุกคนคิดว่าปูขี้เหร่ ตอนอายุ 13ยังไม่รู้ตัวเอง พอหลังจากนั้นไม่กี่เดือนก็ไปดูบอลช่อง 3ตอนที่กำลังจะเดินออกจากสนามบอลมีคนบอกว่า ตัวดำ ไม่เห็นสวยเลย แล้วปูก็กลับมาร้องๆ นั่นคือประสบการณ์การโดนคอมเมนต์ของแฟนคลับ ของคนไทย เลยคิดว่าพวกเขาเกลียดปู ไม่ชอบอะไรเลยที่เป็นปู แล้วบอกว่าไม่มีใครแต่งด้วยหรอกของเล่นไฮโซ ปูเลยยิ่งแบบว่าฉันจะต้องหาแฟน ฉันต้องตัวขาวหาผู้ชายก่อน มันบ้ามาก ก็คิดในใจว่าฉันต้องเป็นแบบนี้ถึงจะถูกความยอมรับ ความรักเป็นยังไงตอนนี้ คบมานานหรือยัง ?

ปู : แฮปปี้ เรียกว่าคุยดีกว่า คุยมาสักพักหนึ่งแล้วค่ะคุยนานเกินปีแล้ว ขอเก็บเป็นเรื่องส่วนตัวเท่านั้นคราวนี้ปูจะไม่พูดแล้ว ไม่มีใครจะได้เห็นรูปที่ปูลง เพราะเวลาโดนเรื่องโซเชียลมันหนักแค่ไหน ปูรู้สึกว่าต้องการปกป้องคนที่คุยด้วย แล้วอีกอย่างคือที่ผ่านมามันเป็น ไปรยา เวอร์ชั่น ต้องให้คนนี้รัก ต้องมีแฟน ต้องแต่งงาน เพื่อมีคุณค่า แต่ตอนนี้ปูรู้สึกว่าชีวิตรักปู เป็นเรื่องของปู มันเป็นเรื่องส่วนตัว ถ้าปูยังปกป้องตัวเองในสายตาผู้คนไม่ได้ ซึ่งตอนนี้หลังจากบทสัมภาษณ์นี้ ปูอาจจะโดนด่าหนักมากก็ได้ ปูไม่มีทางเอาคนอื่นที่เป็นคนนอกวงการ ต้องมาเจออะไรแบบนี้ ปูต้องปกป้องทุกคน มันมีแบบนานๆ ทีปูลงรูปเพื่อนๆ ทุกวันนี้ยังขออนุญาตเพื่อนอยู่เลย เพราะปูก็กลัว ปูเจอมาเยอะ เคยคิดจะไม่เล่นโซเชียลบ้างไหม ?

ปู : เคย ถ้าวันหนึ่งเราสามารถมีรายได้เป็นของตัวเองในหน้าที่การงานที่แบบพอดีแล้ว ปิดแน่เลยนะ บ๊าย! Instagram

ในวันที่คุณแบก ปู-ไปรยา ว่าต้องเป็นอย่างนี้คนไทยถึงจะชอบ สุดท้ายวันหนึ่งคุณค่อยๆ กะเทาะตัวตน และมองว่าฉันไม่ต้องเป็นอะไร เหลือศูนย์ว่างเปล่า ?

ปู : สุดท้ายลมหายใจที่เรามีอยู่จริงที่สุดแล้ว คนมันจะมองข้ามความสำคัญของลมหายใจ แต่เป็นสิ่งที่เราขาดไม่ได้ยิ่งกว่าอาหารหรือน้ำดื่มอีก ฉะนั้นเมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าชีวิตมันเกินไปรับไม่ได้ ปูก็อยากจะบอกว่ากลับมาที่ลมหายใจ เราเกิดมาสุดท้ายตายไม่ว่าจะเผาหรือฝังมันหายไปไม่มีอะไรคงอยู่ตลอดไป ปูก็เลยใช้ชีวิตเหมือนทุกวันนี้เป็นเหมือนวันสุดท้ายของปู แล้วสุดท้ายปูอยากทำอะไร ปูอยากอยู่กับครอบครัว โอเคทำเงินหางาน แต่ทำแล้วรักหรือเปล่า ถ้าไม่รักไม่อยากทำงานนี้ ปูก็จะไม่ทำอยากทำในสิ่งที่ทำแล้วมีความสุข สุดท้ายปูเชื่อนะพอวินาทีและลมหายใจสุดท้าย ปูอยากจะรู้สึกว่าปูมองกลับไปชีวิตตัวเองและวินาทีนั้น บอกกับตัวเองว่า ฉันทำดีที่สุดแล้ว ฉันพอใจแล้วนี่สำคัญมากสำหรับปู อะไรที่คนอื่นคิดเอาจริงๆ นะ ไม่ใช่ปัญหาของปู เพราะฉะนั้นถ้าปูถามทุกคนวันนี้คุณอยากทำอะไร ? ไปทำซะ เพราะคุณไม่รู้ว่าคุณจะได้ทำไหม วินาทีนี้จะเป็นวินาทีที่เราเด็กที่สุด เราจะไม่เด็กไปกว่านี้แล้ว

เรื่องหนักที่สุดในชีวิต ?

ปู : อยากฆ่าตัวตาย ปูเคยคิดสั้น แล้วมีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาด่าปู แล้วเขาทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ใน IG ปูเลยโทรไปร้องไห้ บอกคุณทำอย่างนี้กับฉันได้ยังไง คุณรู้จักฉันเหรอ คุณรู้ไหมว่าคุณทำฉันไม่ไหว แล้วก็กรี๊ด เพื่อนคว้าโทรศัทพ์แล้วบอกว่า No!! เธอโทรหาคนอื่นแบบนี้ไม่ได้ แล้วปูก็กรี๊ด นอนร้องไห้อยู่กับพื้นห้องน้ำ น่าจะเป็นสิบกว่าชั่วโมง แล้วหลังจากนั้นเป็นแค่จุดเริ่มต้นของสงครามจิตวิทยาและสมองที่จะเกิดขึ้นที่โฆษณาหายหมด งานหายหมดทุกอย่างที่ยึดติดว่าเป็นตัวตนปู ว่าถ้ามีสิ่งนี้ทำให้ปูมีค่าหายไปหมดเลย แต่มันเป็นของขวัญที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นเลย

คุณได้อะไร ?

ปู : ได้เป็นตัวของตัวเองแล้วตอนนี้ จะชอบไม่ชอบก็ไม่ใช่ปัญหาของเรา ปูออกจากตำแหน่งแล้ว มันเป็นส่วนสำคัญของปูเหมือนกัน แต่สุดท้ายแล้วบางครั้งชีวิตมันก็เหมือนหนังสือบทนี้มันจบแล้ว คนที่คุณเป็นในช่วงเวลานี้มันจบแล้ว คนนั้นควรจะตายไปเพื่อคนใหม่เกิดขึ้นและแกร่งกว่าเดิม

ช่วงที่ผ่านมาตอนนั้นที่เครียดหนักมาก พ่อ แม่ ล่ะ ?

ปู : พ่อแม่ปูเป็นคนที่บอกว่า เธอจะไปแคร์ทำไม ปูก็ร้องไห้บอกคุณไม่เข้าใจจิตใจปู ไม่เข้าใจว่าคนที่เป็นโรควิตกกังวล มีความเศร้ามากๆ พวกที่เก็บมาคิดจริงจัง คุณไม่เข้าใจว่าแบบปูมีคนขู่ฆ่าด้วยนะฉันจะไปหาเธอ แล้วฆ่าเธอ มันแย่มากๆ บางคนเอารูปปูที่เคยถ่ายรูปคู่กันมาฉีกแล้ววาด แล้วส่งเข้ามาใน inbox มันบ้าบอสุดๆ ปูจะไม่ร้องกับสิ่งที่ไม่ควรได้รับน้ำตาปู สัญญากับตัวเองแล้วว่า เราจะไม่ร้องกับสิ่งที่ไม่ควรได้รับน้ำตา